ญี่ปุ่นเจอสภาพอากาศร้อนจัด ทำสถิติใหม่สูงสุด 41.8 องศาซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายอาชีพ เพื่อแก้ปัญหานี้ทางสายการบิน Japan Airlines พัฒนาเสื้อกั๊กพร้อมระบบทำความเย็นให้พนักงานภาคพื้นดินที่ทำงานกลางแจ้ง
เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) ได้ทดสอบใช้งานเสื้อกั๊กติดพัดลมกับพนักงานภาคพื้นดิน ซึ่งออกแบบให้ช่วยเป่าลมและหมุนเวียนอากาศภายใน เพื่อช่วยลดอุณหภูมิเวลาทำงานกลางแจ้ง
แต่มาปีนี้ JAL ได้อัปเกรดเสื้อกั๊กเวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมระบบทำความเย็นในตัว เพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากการทำงานในสภาพอากาศร้อนจัด ด้านในของเสื้อกั๊กนั้นจะจะติดตั้งระบบทำความเย็นมาให้ ประกอบด้วยพัดลมสองตัว กระเป๋าสามใบตรงด้านข้างและด้านหลังสำหรับเก็บถุงน้ำแข็ง และแบตเตอรีหนึ่งก้อน
การทำงานนั้นจะใช้หลักการเพลเทียร์ (Peltier) เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นความร้อนหรือความเย็น ที่ตัวพัดลมจะติดแผ่นเพลเทียร์เอาไว้ ซึ่งเป็นสารกึ่งตัวนำที่ช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง -40 องศา จากนั้นก็เป่าลมเย็นให้ไหลเวียนอยู่ภายในเสื้อกั๊ก
รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงที่คอเสื้อ ช่วยให้ลมเย็นไหลผ่านด้านหลังศีรษะได้อีกด้วย ที่สำคัญเขาออกแบบให้พัดลมติดตั้งอยู่ด้านนอกเพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนการใช้งานทำความเย็นนั้นอยู่ที่ 4-9 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและระดับความเย็น
ปกติแล้วพนักงานภาคพื้นดินนั้นจะใช้เวลาทำงาน 2-3 ชั่วโมงต่อเที่ยวบิน ดังนั้นพนักงาน 1 คนต้องใช้แบตเตอรี 2 ก้อนต่อวันโดยทางบริษัทจะจัดเตรียมแบตเตอรีให้ ส่วนเสื้อนั้นจะเป็นเสื้อประจำตัวของพนักงานแต่ละคนอยู่แล้ว
ทาง JAL วางแผนที่นำเสื้อกั๊กนี้ไปให้กับพนักงานภาคพื้นดินจำนวน 80% ที่ทำงานในสนามบิน 51 แห่งในญี่ปุ่น โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
นอกจากนั้นทางสนามบินฮาเนดะยังยกระดับมาตรการรับมือกับความร้อนให้พนักงานภาคพื้นดินด้วย เช่น เตรียมถังเครื่องดื่มเย็นๆ เอาไว้ให้ มีเครื่องทำน้ำแข็งเอาไว้ให้บริการพนักงาน รวมถึงมีน้ำแข็งไสให้บริการในสำนักงาน เพื่อช่วยคลายร้อนให้กับพนักงานที่ต้องทำงานท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา
ที่มา aviationwire