ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ได้ตั้งคำถามมอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับกระแสเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า EV และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ในประเทศ ท่ามกลางความวิตกกังวลด้านสภาวะเงินฝืด และความตึงเครียดทางการค้าต่อสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
จากรายงานของสื่อ Financial Times สี จิ้นผิงได้กล่าวเตือนเรื่องการลงทุนที่เกินตัวอย่างชัดเจน ในที่ประชุม “การพัฒนาเมืองส่วนกลาง” (Central Urban Work Conference) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งเป็นเวลา 2 วัน
เมื่อพูดถึงโครงการต่าง ๆ ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ หรือรถยนต์ไฟฟ้า ทุกมณฑลในจีนจำเป็นต้องพัฒนาไปในทิศทางนี้หรือ ?
เราไม่ควรเน้นแค่ตัวเลข GDP หรือจำนวนโครงการใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ควรดูด้วยว่าโครงการเหล่านั้นสร้างหนี้มากแค่ไหน… อย่าปล่อยให้ใครบางคนโยนปัญหาไว้ให้คนรุ่นหลังต้องเป็นคนแก้
สี จิ้นผิง กล่าวในสุนทรพจน์หน้าแรกในหนังสือพิมพ์ People’s Daily สื่อทางการของพรรค และยังตำหนิเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางรายที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างเร่งรีบโดยไม่รับผิดชอบต่อผลที่ตามมา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจีนจะลดความสำตัญจากอุตสาหกรรม EV และ AI แต่อย่างใด ล่าสุดสหรัฐฯ ได้กลับมาอนุญาตให้ Nvidai สามารถจำหน่ายชิป AI ให้กับจีนอีกครั้ง โดยบริษัทยังมีคำสั่งซื้อที่ค้างจัดส่งอยู่ มูลค่ามากถึง 8,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 259,000 ล้านบาท) หลังจากก่อนหน้านี้เคยถูกระงับการขาย GPU ซีรีส์ H20 เนื่องจากความกังวลด้านการทหาร
ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า จีนยังคงเป็นผู้นำในตลาดโลก และกำลังเข้าแข่งขันกับฝั่งสหรัฐฯอย่างดุเดือดในตลาดแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ล่าสุด มีรายงานการจับมือกันระหว่าง Uber และ Baidu เพื่อนำรถไร้คนขับหรือ ‘Baidu Apollo Go’ เข้าสู่เครือข่ายรถของ Uber ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่ และตลาดอื่น ๆ นอกสหรัฐฯ อีกด้วย
ที่มา: engadget