
หลังเผชิญกระแสกดดันมานาน ในที่สุดบริษัท Meta ก็เดินหน้าฝ่าคดีผูกขาดที่คณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ (FTC) ยื่นฟ้องได้สำเร็จ โดย FTC กล่าวหาว่าการเข้าซื้อ Instagram ในปี 2012 และ WhatsApp ในปี 2014 เป็นความพยายาม “ตัดกำลังคู่แข่ง” ซึ่งคดีเริ่มพิจารณาตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมา
แม้ว่าทาง FTC จะต้องการให้ศาลสั่งตัดสิน Meta ให้แยกกิจการหรือขาย Instagram และ WhatsApp ออกไป พร้อมกับอ้างว่าบริษัทมีการใช้เงินหลายพันล้านเหรียญ (1,000 ล้านเหรียญ ประมาณ 32,000 ล้านบาท) เข้าซื้อกิจการเพื่อกำจัดคู่แข่งที่กำลังมาแรง
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง ได้ปฏิเสธคำร้องของ FTC โดยชี้ว่าไม่อาจพิสูจน์ได้ว่า Meta ดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดที่ผิดกฎหมายจริง และเห็นพ้องกับข้อโต้แย้งของ Meta ที่ว่าตลาดโซเชียลมีเดียมีการแข่งขันสูงกว่าที่ FTC กล่าวไว้ พร้อมระบุว่า Meta กำลังเผชิญกับคู่แข่งมากมายในระบบนิเวศออนไลน์ ไม่ใช่แค่ในตลาดแคบ ๆ ตามกรอบจำกัดของรัฐบาล
ต่อให้ไม่นับ YouTube แค่การมี TikTok ก็เพียงพอที่จะทำให้คดีของ FTC ล้มเหลวแล้ว
ผู้พิพากษา เจมส์ โบสเบิร์ก (James Boasberg) ระบุในคำพิพากษา
โบสเบิร์กยังชี้ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมโซเชียลในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ TikTok ซึ่งเป็นหลักฐานว่าตลาดยังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด พร้อมยังมีการวิจารณ์ FTC ที่ประเมินบทบาทของ YouTube ต่ำเกินไป
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ Meta หลุดพ้นจากความเสี่ยงที่จะถูกสั่งให้แยกบริษัทหรือขายทั้ง Instagram และ WhatsApp ออกไปในที่สุด
ด้าน โจ ซิมอนสัน (Joe Simonson) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาธารณะของ FTC กล่าวว่า ผิดหวังอย่างยิ่งกับคำตัดสินในครั้งนี้ ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่าหน่วยงานจะพิจารณาถึงทางเลือกอื่น ๆ ในขั้นถัดไป
ที่มา: PetaPixel





