อัปเดตใหญ่ AirPods Pro 2 – Apple Watch ไทย รองรับฟีเจอร์ Hearing Aid เครื่องช่วยฟัง – Sleep Apnea แล้ว

เมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ในงาน Apple Event เดือนกันยายน 2024 ทาง Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ AirPods Pro 2 รองรับฟีเจอร์ Hearing Aid แปลงร่างเป็นเครื่องช่วยฟัง และ Apple Watch รองรับฟีเจอร์ Sleep Apnea ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งในตอนนี้ประเทศไทยสามารถใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้แล้ว

ทุกคนรู้เป็นอย่างดีว่า Apple มีความเชี่ยวชาญหลากหลายแขนง ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ ซึ่งทาง Apple ก็ได้มีการขวนขวายคิดค้นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาให้รองรับอุปกรณ์เดิมที่เปิดตัวอยู่เสมอมา ทำให้ของในมือที่ลูกค้าซื้อนั้นไม่ดูเก่าและยังคงทันสมัย โดยหนึ่งในแขนงที่ Apple ให้ความสนใจมาโดยตลอดคือ ‘สุขภาพ’

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ภายในงาน Apple Event – September 9 ก็มีการเปิดเผยฟีเจอร์ใหม่สำหรับอุปกรณ์ Apple คือ AirPods Pro 2 รองรับฟีเจอร์ Hearing Aid ใช้หูฟังเดิมเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ช่วยฟัง สำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน และ Apple Watch Series 9-10 และ Ultra 2 รองรับฟีเจอร์ Sleep Apnea สวมนาฬิกาตอนนอนตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งในช่วงแรกฟีเจอร์เหล่านี้เปิดให้บริการเฉพาะในสหรัฐฯ เนื่องจากผ่านการรับรอง U.S. FDA (U.S. Food and Drug Administration) องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก

ซึ่งในตอนนี้ อย. ไทย หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก็ได้ให้ใบรับรองแก่ Apple และเปิดฟีเจอร์เหล่านี้ให้คนไทยได้ใช้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Hearing Aid บน AirPods Pro 2

สำหรับฟีเจอร์ Hearing Aid เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่เปลี่ยนให้ AirPods Pro 2 ที่อยู่ภายในมือของทุกคน เปลี่ยนกลายเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับคลินิกได้

ซึ่งการใช้ฟีเจอร์นี้ก็ใช้เวลาไม่มาก เพียงแค่ 5 นาที และตัวระบบจะทำการทดสอบหูของเราด้วยเสียงย่านความถี่ 250Hz-8,000Hz ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับปกติ ไปจนถึงระดับการสูญเสียการได้ยินขั้นรุนแรง และให้ผลลัพธ์ออกมาว่า ตัวเรานั้นบกพร่องทางการได้ยินหรือไม่ รวมไปถึงออกแบบโปรไฟล์การได้ยินเฉพาะตัว

ข้อดีของฟีเจอร์ Hearing Aid บน AirPods Pro 2 คือ

  1. มีเครื่องช่วยฟังพกพาแบบเบื้องต้นในมือได้ทันที
  2. เข้าใจศักยภาพการได้ยินของตัวเอง
  3. เริ่มต้นดูแลสุขภาพช่องหูได้ทันที

สำหรับฟีเจอร์ Hearing Aid บน AirPods Pro 2 ก็มีการทดสอบผ่านการศึกษาวิจัยเทียบเท่าอุปกรณ์ระดับคลินิกกว่า 200 คน และได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ และ อย. ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย

Loud Sound Reduction

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้ว และเกี่ยวข้องกับสุขภาพหูก็คือ ‘Loud Sound Reduction’ เป็นฟีเจอร์ที่จะมาช่วยปรับลดระดับเสียง ดังเกินไปและอาจเป็นอันตรายต่อการได้ยิน ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ถูกเปิดอัตโนมัติไว้ตั้งแต่แรก และสามารถทำงานร่วมกับโหมดของ AirPods Pro 2 ได้ทั้งหมด เช่น Transparency, Adaptive และ Noise Cancellation

Settings > AirPods Pro 2 > Accessibility > Turn Off Loud Sound Reduction หรือ Turn On Loud Sound Reduction

ซึ่งการทำงานของฟีเจอร์นี้ ต้องอาศัยพลังของชิป H2 และเมื่อพบเสียงดังเฉียบพลัน เช่น เสียงไซเรน, เสียงรถมอเตอร์ไซค์ หรือเสียงจากไซต์ก่อสร้าง ตัวระบบนั้นจะลดความเข้มของเสียงก่อนเข้าสู่หูของผู้ใช้ AirPods Pro 2 โดยอัตโนมัติ ให้เสียงอยู่ต่อเนื่องระดับ 85 เดซิเบล และลดเสียงรบกวนให้ปลอดภัยกับหูต่อเนื่อง

โดย Apple ก็ได้อิงจากการศึกษาของ WHO ที่ได้บอกว่าคนที่ได้ฟังเสียงที่มีความดังเกิน 100 เดซิเบล เกิน 15 นาทีเป็นประจำ อาจส่งผลเสียต่อการได้ยินได้อย่างถาวร นี่จึงเป็นสาเหตุที่มีฟีเจอร์นี้ออกมาให้กับผู้ใช้งาน

Sleep Apnea บน Apple Watch Series 9-10 และ Ultra 2

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ได้รับการพูดถึงหลังงาน Apple Event – September 9 ก็คือ Apple Watch Series 9-10 และ Ultra 2 จะรองรับฟีเจอร์สุขภาพการนอนใหม่อย่าง Sleep Apnea ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจจับความเสี่ยงของ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ’ ระดับปานกลางถึงรุนแรง

โดยหลักการทำงานของฟีเจอร์นี้ คือ Accelerometer ตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวผ่าน Apple Watch ที่รองรับการใส่ระหว่างหลับ เมื่อตัวอุปกรณ์ตรวจพบความผิดปกติในการหายใจ ระบบนั้นจะทำการบันทึกเป็นค่า ‘Breathing Disturbance’ หนึ่งค่าในแต่ละคืน เป็นเวลา 30 วัน และมีการซิงก์ข้อมูลกับ iPhone ซึ่งตัวระบบจะทำการวิเคราะห์ตลอด 30 วัน ว่าคืนไหนบ้างที่เกิดความผิดปกติหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับในระดับสูงมากกว่า 50% ทางผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

ข้อแม้ของการใช้ฟีเจอร์นี้ คือผู้ใช้จำเป็นต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป และไม่มีประวัติการวินิจฉัยโรค เนื่องจากฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่เคยได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้บอกว่ามีคนกว่า 1,000 ล้านคน มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่รู้ตัว และมากกว่า 1,500 ล้านคน มีปัญหาทางการได้ยิน ซึ่ง Apple ก็เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้ และได้ออกแบบฟีเจอร์มาเพื่อคนทั่วโลก

อุปกรณ์ที่รองรับฟีเจอร์นี้

ฟีเจอร์ Hearing Aid และ Loud Sound Reduction รองรับเฉพาะ AirPods Pro 2 เท่านั้น และฟีเจอร์ Sleep Apnea รองรับเฉพาะ Apple Watch Series 9-10 และ Ultra 2 ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ต้องอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด และทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iPhone หรือ iPad ที่อัปเดต iOS 18 และ iPadOS 18 ขึ้นไป

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...