แม้ประเทศไทยเราจะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อินเทอร์เน็ตแรงอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ฝั่งญี่ปุ่นเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะล่าสุดญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศมีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลกไปแล้ว กับความเร็ว ‘1.02 Pbps’ (หรือ 1,020,000,000 Mbps)
ถ้าถามว่าเร็วแค่ไหน ด้วยความเร็วระดับนี้ในทางทฤษฎีสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์รวมถึงซีรีส์ทั้งหมดใน Netflix ได้ในเวลาเพียง 1 วินาที ซึ่งถ้าเทียบกับความเร็วเฉลี่ยของฝั่งสหรัฐฯ ทำได้เพียง 242 Mbps เท่านั้น หรือเร็วกว่าถึง 3.5 ล้านเท่าเลยทีเดียว
ความสำเร็จนี้เกิดจาก Photonic Network Lab ของ NICT ร่วมมือกับบริษัท Sumitomo Electric และพันธมิตรจากยุโรปเพื่อสร้างเครือข่ายที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งพวกเขาส่งข้อมูลความเร็วสูงด้วยความเร็ว 1,808 กิโลเมตร/วินาที ผ่านสายไฟเบอร์ออปติกแบบพิเศษที่มีถึง 19 คอร์ (มีความหนาเพียง 0.125 มิลิเมตร เท่ากับที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป)
ด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้สามารถส่งปริมาณข้อมูลรวมกันได้ถึง 1.86 Exabit ต่อวินาที ต่อกิโลเมตร เรียกว่าเป็นตัวเลขที่สูงสุดตั้งแต่มีมาในประวัติศาสตร์
ในการวางเครือข่าย บริษัท Sumitomo Electric รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบสายไฟเบอร์ ในขณะที่ NICT รับหน้าที่สร้างระบบส่งข้อมูล โดยใช้ตัวรับ ตัวส่ง และวงจรวนสัญญาณกว่า 19 วง (ความยาววงละ 86.1 กิโลเมตร) ซึ่งสัญญาณจะถูกวงผ่านวงเหล่านี้ 21 ครั้ง ก่อนจะแยกข้อมูลออกเป็น 180 สตรีม เพื่อส่งไปยังปลายทาง
ถ้ายังไม่เห็นภาพว่าเร็วขนาดไหน สำหรับเกมเมอร์ในทางทฤษฎีสามารถดาวโหลดเกมทั้งหมดบนร้านค้า Steam ประมาณ 1.2 Petabyte ภายใน 10 วินาที หรือสตรีมวิดีโอระดับ 8K ได้พร้อมกันถึง 10 ล้านไฟล์เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ความเร็วดังกล่าวเป็นความเร็วสูงสุดที่เครือข่ายสามารถทำได้เท่านั้น แต่จากข้อมูลนี้ก็ทำให้เราทราบว่าญี่ปุ่นนอกจากรถไฟความเร็วสูง ตึกที่ทนต่อแรงแผ่นดินไหว และมาตรการรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ดีติดอันดับต้น ๆ ของโลกแล้ว เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตก็พัฒนาไปมากเช่นเดียวกัน จนตอนนี้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกแล้ว
ที่มา: UNILAD