Google ใช้สมาร์ตโฟน Android กว่า 2,000 ล้านเครื่อง ในการตรวจจับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งระบบแจ้งเตือนมีประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่องวัดแผ่นดินไหวแบบเฉพาะในการทดสอบระดับโลก และยังสามารถช่วยแจ้งเตือนในประเทศที่ไม่มีระบบตรวจจับแผ่นดินไหว
สำหรับระบบนี้ Google ได้มีการเปิดตัวมาตั้งแต่ในปี 2021 โดยวิเคราะห์จากข้อมูลการสั่นไหวที่ได้มาจากสมาร์ตโฟน Android ทั่วโลก (ที่ผู้ใช้อนุญาตเปิดฟีเจอร์ดังกล่าว) มาสร้างเป็นเครือข่ายระดับโลกในการตรวจแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว และส่งคำเตือนให้กับผู้ใช้จำนวนหลายล้านคนใน 98 ประเทศทั่วโลก
ตัวระบบสามารถระบุจุดกำเนิด และความแรงของแผ่นดินไหวกว่า 11,000 ครั้ง ได้อย่างแม่นยำไม่แพ้เครื่องมือวัดเฉพาะทางเลยทีเดียว ช่วยให้มีจำนวนผู้รับที่ได้รับการแจ้งเตือนแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับคนที่อยู่ในเหตุการณ์
หลักการทำงานของระบบนี้ใช้จุดแข็งจาก “จำนวนอุปกรณ์” เป็นหลัก โดยอัลกอริทึมของ Google จะรวมข้อมูลจากสมาร์ตโฟนหลายเครื่องในพื้นที่กว้าง โดยคำนึงถึงทั้งความแตกต่างของภูมิประเทศ วัสดุก่อสร้างที่ใช้ และลักษณะการตรวจจับแรงสั่นสะเทือนเฉพาะตัวของสมาร์ตโฟนแต่ละรุ่น ด้วยวิธีนี้ยังทำให้ระบบสามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนแม้เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยได้อีกด้วย
แม้จะเป็นระบบที่ดีแต่ก็บางครั้งก็เจอข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 มีเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 2 ครั้ง ในประเทศตุรกี ซึ่งตัวระบบกลับประเมินความรุนแรงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ภายหลัง Google ได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวกลับมาวิเคราะห์อีกครั้งด้วมอัลกอริทึมเวอร์ชันใหม่ พบว่าหากใช้เวอร์ชันที่ปรับปรุงแล้ว จะสามารถออกแจ้งเตือน ‘Take Action Alert’ สำหรับแผ่นดินไหวระดับปานกลางจนไปถึงรุนแรงให้ผู้ใช้ปฎิบัติตามคำแนะนำได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้มากถึง 10 ล้านเครื่อง ในช่วงเวลาเดียวกัน
แม้ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับความโปร่งใสของระบบ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และอัลกอริทึมที่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของ Google ซึ่งทำให้การตรวจสอบจากภายนอกยังทำได้จำกัด
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมต้องยอมรับว่าระบบนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่มีระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว
ที่มา: TechSpot