จีนไฟเขียวดีล TikTok กับสหรัฐฯ ปิดฉากศึกดิจิทัลที่ยืดเยื้อยาวนานหลายปี

หลังจากเป็นประเด็นยืดเยื้อกันมานานระหว่างสหรัฐฯ และจีน กับอนาคตของ TikTok ที่ล่าสุดดูเหมือนใกล้ได้ข้อสรุป โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) ยืนยันว่าจีนได้อนุมัติข้อตกลงการโอนกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯอย่างเป็นทางการแล้ว

หลังการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เบสเซนต์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ดีลในครั้งนี้ระหว่าง 2 ประเทศสำเร็จแล้ว และจะมีการอัปเดตขั้นตอนต่าง ๆ ในช่วงเดือนข้างหน้านี้ พร้อมกันกับที่ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนก็แถลงเช่นกันว่า “จีนจะดำเนินการจัดการประเด็น TikTok กับสหรัฐฯ อย่างเหมาะสม”

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2025 TikTok เคยถูกสั่งแบนในสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมาย ‘ขายกิจการหรือแบน’ ที่บังคับให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ต้องขายกิจการให้เจ้าของใหม่ชาวอเมริกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถให้บริการในประเทศได้ ก่อนจะได้รับสิทธิผ่อนผันยืดกรอบระยะเวลาการแบนอยู่หลายครั้ง

ด้วยดีลในครั้งนี้ ทำให้ ByteDance จะถือหุ้นใน TikTok US ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า 20% เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายของสหรัฐฯ โดยจะมีที่นั่งในตำแหน่งคณะกรรมการบริหารเพียง 1 ใน 7 เท่านั้น โดยที่เหลือฝั่งอเมริกันจะถือครองอีก 6 ที่นั่ง ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาถือหุ้นประมาณ 45-50% ได้แก่ Oracle, Silver Lake และ MGX

ข้อมูลจาก Pew Research Center ล่าสุดชี้ว่า ทัศนคติของชาวอเมริกันที่มีต่อการแบน TikTok เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ยังสนับสนุนการแบน ลดลงจากช่วงเดือนมีนาคม 2023 ที่ตัวเลขเคยสูงเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มผู้ใช้อายุต่ำกว่า 30 ปีมากถึง 43% ใช้ TikTok เป็นแหล่งรับข่าวสารหลัก ซึ่งสูงกว่าโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มในสหรัฐฯอีกด้วย

ที่มา: TechSpot

บดินทร์ ตันวิเชียร

'ช่างภาพ' ที่เขียนคอนเทนต์ได้ หาเงินซื้อเปียกให้แมว 3 ตัว ที่บ้าน