จ่ายแพ็กเกจ Lossless ก็ไม่ช่วย ! Android พบปัญหาบีบคุณภาพเสียง บนแอปฯ Spotify, Tidal

THE SUMMARY:

ในหมู่นักฟังเพลงสาย Audiophile หลายคนยอมจ่ายเงินซื้อแพ็กเกจ Lossless จากแอปฯ สตรีมมิงอย่าง Spotify, Tidal, Qobuz, Apple Music และบริการอื่น ๆ ด้วยความคาดหวังว่าจะได้ฟังเสียงคุณภาพระดับที่ถูกมาสเตอร์มาโดยตรง ไม่ผ่านการบีบอัดใด ๆ

แต่ความจริงที่หลายคนอาจไม่รู้คือ บนระบบปฏิบัติการ Android กลับมีปัญหาการ ‘resample’ อยู่เบื้องหลัง ทำให้เสียงที่ได้ไม่ใช่ “Lossless แท้จริง” อย่างที่ควรจะเป็น และเป็นปัญหาที่ถกเถียงในวงการ Audiophile มาหลายปีแล้ว…

ต้นตอปัญหาการ “resample” ของฝั่ง Android

โดยทั่วไป เพลงต้นฉบับส่วนใหญ่ถูกมาสเตอร์ที่ความถี่ 44.1 kHz ซึ่งถือเป็นมาตรฐานของแผ่น CD มายาวนาน แต่บน Android ตัวระบบกลับเรียกใช้ mixer ภายในที่ตั้งค่าไว้ที่ 48 kHz

ปัญหาคือ เมื่อเล่นเพลงความถี่ 44.1 kHz ระบบปฏิบัติการจะทำการ resample แปลงสัญญาณเป็น 48 kHz ก่อนส่งต่อไปยัง DAC ซึ่งอาจก่อให้เกิดความบิดเบือนเล็กน้อย และทำให้การฟังไม่ใช่ Lossless ที่แท้จริงอีกต่อไป เพราะผ่านการแปลงสัญญาณมาแล้วนั่นเอง โดยเอกสารของ Android เอง ก็มีการเตือนถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นกัน ว่าอาจเกิดปัญหา เช่น ripple, aliasing, high-frequency roll-off ได้

ปัญหานี้มีใน Windows เช่นกัน แต่ฝั่ง PC ยังมี “Exclusive Mode ผ่าน WASAPI” ที่ช่วยให้เล่นไฟล์เพลงได้แบบ bit-perfect โดยไม่ถูกแปลงสัญญาณ ขณะที่ Android ไม่มีโหมดลักษณะนี้

ทำไมเรื่องนี้ถึงมีสำคัญ !?

ไม่น่าเชื่อว่าเหล่าผู้ให้บริการสตรีมมิงแทบไม่เคยเปิดเผยถึงข้อจำกัดนี้ ทั้งที่มันส่งผลกระทบกับผู้ใช้งานนับล้านคนที่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า แต่แพลตฟอร์มกลับไม่สามารถมอบคุณภาพแบบที่กล่าวให้ได้จริง

มีทางออก… แต่ก็ยังมี “ข้อจำกัด”

แม้จะเป็นปัญหาที่ตัวระบบปฏิบัติการ แต่ก็ยังพอมีทางออก เช่น การใช้แอปฯที่สามารถ bypass การแปลงสัญญาณผ่าน Mixer อย่าง ‘USB Audio Player Pro (UAPP)’ ที่ใช้ไดร์เวอร์ USB ส่งตรงไปยัง DAC โดยตรง แถมรองรับทั้ง Tidal, Qobuz และการเล่นไฟล์เพลงภายในเครื่อง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ คือ ไม่สามารถใช้กับ Spotify ได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้าน API

ตั้งแต่ Android 14 เป็นต้นมา มี attribute สำหรับฟีเจอร์ USB DAC ที่ชื่อ ‘preferred mixer’ ซึ่งอาจช่วยเรื่องนี้ได้ แต่การสนับสนุนกลับไม่สม่ำเสมอในระหว่างอุปกรณ์รวมถึงแอปฯ ทำให้บางเครื่องอาจไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้

แอปฯ USB Audio Player Pro (UAPP)

แม้การ root เครื่อง เพื่อเปลี่ยน default sample rate อาจเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด แต่ก็เป็นทางเลือกที่เสี่ยงเกินไป และคงไม่เหมาะกับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป

แนวทางในอนาคต

สำหรับการฟังเพลงทั่วไปแล้ว ความแตกต่างอาจสังเกตได้ยาก แต่สำหรับคนที่สมัครแพ็กเกจพรีเมียม ลงทุนกับอุปกรณ์ทั้งหูฟัง, ลำโพง หรือ DAC/AMP ราคาแพงแล้ว การบังคับ resample ของ Android ถือว่าเป็นการสูญเสียด้ารคุณภาพเสียงที่สามารถวัดตรวจสอบได้

ซึ่งหวังว่าในอนาคต Android จะมีฟีเจอร์อย่าง macOS และ Linux ที่สามารถปรับความถี่ให้ตรงกับไฟล์ต้นฉบับได้แบบไดนามิก หรืออย่างน้อยในฝั่งแอปฯสตรีมมิงจะมีการเพิ่มฟีเจอร์โหมด USB DAC เข้ามาโดยตรงอีกครั้ง เหมือนที่ทาง Tidal เคยทำมาก่อนหน้านี้ (แต่ก็ถูกถอดออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ…)

จนกว่าจะถึงวันนั้น การฟังเพลง Lossless ที่แท้จริงผ่าน Spotify หรือระบบ Bluetooth บน Android ก็ยังคงเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยากอยู่ดี…

ที่มา: Headphonesty

'ช่างภาพ' ที่เขียนคอนเทนต์ได้ หาเงินซื้อเปียกให้แมว 3 ตัว ที่บ้าน

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...