ตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศใช้ “กำแพงภาษี” ในยุครัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) โดยเฉพาะสินค้าจากจีน หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบหนักคงหนีไม่พ้น DJI โดยในปีนี้ที่บริษัทต้องปรับขึ้นราคากล้องแอ็กชันยอดนิยมอย่าง ‘Osmo Pocket 3’ ไปแล้วถึงสองครั้งติดต่อกัน ทำให้ราคาพุ่งไปถึง 799 เหรียญ (ประมาณ 26,000 บาท) ซึ่งแพงกว่าในไทยมาก
แต่ล่าสุดกลับมีแบรนด์ลึกลับชื่อว่า Xtra Technology โผล่มาขายกล้อง ‘Xtra Muse’ บน Amazon ในราคาเพียง 499 เหรียญ (ประมาณ 16,000 บาท) แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ทั้งภายนอก และภายในเรียกว่าเหมือน Osmo Pocket 3 แทบทุกจุด ต่างกันแค่ชื่อเท่านั้น
วิศวกรซอฟต์แวร์ผู้ติดตามวงการ DJI อย่าง คอนราด อิตูร์เบ (Konrad Iturbe) ได้เผยให้เห็น ไส้ในของกล้อง Xtra Muse ที่เรียกได้ว่า ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และโครงสร้างภายใน แทบไม่ต่างจาก DJI Osmo Pocket 3 เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ชิ้นส่วนภายใน, แผงวงจร, ชิป ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้
จุดต่างเพียงเล็กน้อยอยู่ที่โค้ดภายใน ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อ DJI เป็นคำอื่นแทน แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังพบหลักฐานอ้างอิงถึงชื่อเดิมอย่าง DJI LightCut และ DJI Avinox e-bike ปรากฏอยู่หลายจุดในแอปฯของ Xtra
นอกจากนี้ Xtra Muse ยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ของ DJI ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกริปแบตเตอรี่, เลนส์เสริมแม่เหล็ก และเคส สิ่งเดียวที่ใช้ไม่ได้คือไมค์ไร้สาย DJI Mic 2 และ Mic Mini (ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการอัปเดตให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ในอนาคต)
พร้อมกับมีการพบว่า Xtra ได้มีการจดทะเบียนชื่อการค้าของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่าง DJI Osmo Nano เป็น ‘Xtra Atto’ และ DJI Osmo 360 เป็น ‘Xtra Sphra’ อีกด้วย
Xtra ระบุในเว็บไซต์ว่าตนว่าเป็นสตาร์ตอัปอิสระที่จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ สหรัฐฯ แต่ทางอิตูร์เบเผยว่า Xtra อ้างอิงเซิร์ฟเวอร์ข้อมูลในจีน และใช้ API จากบริษัทจีนหลายแห่ง
เสริมด้วยข้อมูลจากนักวิจัยความปลอดภัย เควิน ฟินิสแตร์ (Kevin Finisterre) ที่เผยว่าแอปฯของทาง Xtra มีการใช้เครื่องมือ Bangcle / SecNeo จากจีนในการซ่อนโค้ดเหมือนกับที่ DJI ใช้อีกด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีบริษัทปริศนาถูกสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับ DJI ก่อนหน้านี้ก็มีทั้ง SkyRover (ขายโดรน Mini 4 Pro), Cogito, Anzu Robotics, Knowact, Skyhigh, Lyno, Talos, Wavego, และล่าสุดคือ Fikaxo, Spatial Hover, Jovistar (ซึ่งคาดว่าจะขาย DJI Mini 5 Pro ภายใต้ชื่อใหม่เช่นกัน)
สำหรับ DJI กำลังจะถูกห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ใช้คลื่นวิทยุเข้าสู่สหรัฐฯภายในเดือนธันวาคม 2025 นี้ และหากตรวจสอบจะพบว่า Xtra มีการจดทะเบียนบริษัทเมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมา ทำให้คาดเดาได้ว่านี่อาจเป็น 1 ในหนทางที่ DJI จะสามารถทำตลาดในสหรัฐฯได้ต่อไป (อย่างน้อยก็ในชื่ออื่น)
ถึงตอนนี้ DJI ยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ ต่อประเด็นที่ว่า Xtra อาจเป็นบริษัทในเครือที่ใช้เลี่ยงภาษี แต่หากเรื่องนี้เป็นจริง และ DJI สามารถทำได้สำเร็จ มันอาจกลายเป็นแนวทางใหม่ของบริษัทจีนรายอื่น ๆ ที่กำลังมองหาวิธีรอดจากกำแพงภาษีในยุคสงครามเทคโนโลยีก็เป็นได้