งานวิจัยชี้ สมาร์ตวอตช์สามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้แม่นยำขึ้นมาก

THE SUMMARY:

ปัจจุบัน สมาร์ตวอตช์จากหลาย ๆ แบรนด์ให้ความสนใจเรื่องการตรวจจับและโปรโมตคุณสมบัติด้านสุขภาพขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเรื่องจากเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน

ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation หรือ AF) ถือเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อยที่สุด และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) และโรคหัวใจ การวินิจฉัยเพื่อตรวจจับภาวะนี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงมีความสำคัญมาก ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูกใส่ในสมาร์ตวอตช์สามารถตรวจจับภาวะดังกล่าวได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่บน JACC ทำให้เราได้เห็นว่าสมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นที่นำมาทดสอบนั้นมีความแม่นยำมากขนาดไหน

กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยนี้มีทั้งหมด 17,349 คน ในงานวิจัยกว่า 26 การศึกษา พบว่าสมาร์ตวอตช์ในปัจจุบันมีความแม่นยำต่อการตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่สูงมาก

แม้ว่าจะมีความแม่นยำมาก แต่ แต่ละเบรนด์ก็ยังมีความแม่นยำในการตรวจจับที่ไม่เท่ากัน จากการวิเคราะห์ SROC curve พบว่า Samsung (AUC 0.98) และ Amazfit (AUC 0.98) มีความแม่นยำสูง ตามมาด้วย Apple Watch (AUC 0.97) ส่วนในแง่ของเทคโนโลยีที่ใช้ การศึกษาพบว่าความแม่นยำระหว่างรุ่นที่ใช้เทคโนโลยี Photoplethysmography (PPG) และรุ่นที่ใช้ Electrocardiogram (ECG) นั้นมีความใกล้เคียงกัน

  • Amazfit: มีความไวสูงถึง 98.68% และความจำเพาะ 98.87%
  • Samsung: มีความไว 96.59% และความจำเพาะ 95.81%
  • Apple Watch: (เป็นอุปกรณ์ที่มีการศึกษามากที่สุด) มีความไว 93.62% และความจำเพาะ 96.97%
  • Withings: มีความไว 88.58%
  • Fitbit: มีประสิทธิภาพต่ำกว่าแบรนด์อื่นอย่างชัดเจน โดยมีความไวเพียง 65.57% และความจำเพาะ 79.29%

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้มีจุดที่ต้องสังเกตอย่างหนึ่งคือขนาดกลุ่มตัวอย่างของแต่ละการศึกษามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความแม่นยำ มากกว่าความแตกต่างระหว่างแบรนด์ โดยการศึกษาที่มีขนาดใหญ่กว่ามักรายงานผลความแม่นยำที่สูงกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในอุปกรณ์สวมใส่ที่มีการพัฒนาขึ้นมาก

ที่มา JACC

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...