เปิดตัว Meta Ray-Ban Display ชูแว่นตา AI มีจอในตัว ควบคุมผ่านสายรัดข้อมือ EMG ได้

Meta เปิดตัวแว่นตา Meta Ray-Ban Display มาพร้อมจอในตัว พร้อม AI ในตัว ควบคุมผ่าน สายรัดข้อมือ EMG ช่วยให้ทำงานต่างๆ ได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือออกมา

Meta Ray-Ban Display นั้นร่วมพัฒนากับ EssilorLuxottica จึงทำให้ดีไซน์มีสไตล์เหมือนแว่นตา Wayfarer ของ Rayban เพิ่มความโค้งมนให้กับด้านหน้าของแว่น ช่วยลดแสงสะท้อน พร้อมเพิ่มความสบาย ใส่กระชับ และใช้งานง่าย ตัวบานพับเป็นไทเทเนียม แข็งแรงทนทาน แถมยังช่วยลดน้ำหนักให้เบาขึ้น ส่งผลให้มีน้ำหนักแค่ 69 กรัมเท่านั้น

จุดเด่นของรุ่นนี้ คือมีจอแสดงผลสีเต็มรูปแบบ ความละเอียดสูง ที่ปรากฏเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้งาน และหายไปเมื่อไม่จำเป็น ด้วยเลนส์โฟโตโครมาติกและอัลกอริทึมปรับความสว่างอัตโนมัติเพื่อให้เห็นภาพได้คมชัดและมีสีสันไม่ว่าคุณจะอยู่ในอาคารหรือกลางแจ้ง พร้อมผสานไมโครโฟน ลำโพง กล้อง และจอแสดงผลสีเข้ากับการประมวลผล AI ในตัวเดียวกัน สามารถแสดงคำตอบและคำแนะนำทีละขั้นตอน

ด้านนอกมีไฟ LED แสดงสถานะเพื่อแจ้งให้ผู้อื่นทราบเมื่อใช้แว่นตาเพื่อถ่ายภาพและบันทึกวิดีโออยู่ ด้านแบตเตอรีรองรับการใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 6 ชั่วโมง และสามารถยืดเวลาได้ถึง 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จพกพาที่พับเก็บได้

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Meta Neural Band สายรัดข้อมือ EMG มาพร้อมแบตเตอรีในตัว สามารถแปลงสัญญาณจากการขยับกล้ามเนื้อมือ เพื่อใช้ควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ ของแว่นตา ช่วยให้สั่งการได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องสัมผัสอุปกรณ์หรือหยิบมือถือขึ้นมา การโต้ตอบจึงลื่นไหลและให้ความรู้สึกเสมือนใช้เวทมนตร์

ส่วนเรื่องความทนทานหายห่วง สายรัดข้อมือนี้มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำ IPX7 สายรัดข้อมือมีขั้วไฟฟ้าเคลือบด้วยคาร์บอนคล้ายเพชร ซึ่งเสริมความแข็งแรงด้วย Vectran ซึ่งเป็นตาข่ายถักทอที่มีความแข็งแรงเทียบเท่าเหล็กเมื่อดึง แต่ยังคงความอ่อนนุ่มพอที่จะงอได้ง่าย Vectran เป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้กับแผ่นรองกันกระแทกของยานสำรวจดาวอังคาร

ตัวแว่นมีให้เลือกสองสีคือ สีดำ และสีทราย พร้อมตัวเลือกกรอบสองขนาด ได้แก่ ขนาดมาตรฐานและขนาดใหญ่ ทุกคู่มาพร้อมเลนส์ Transitions ที่สามารถปรับใช้ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วน Meta Neural Band มีให้เลือก 3 ขนาด เพื่อให้คุณสวมใส่ได้พอดีที่สุด

Meta Ray-Ban Display และ Meta Neural Band เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 799 เหรียญ (25,400 บาท) จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 30 กันยายนนี้ ผ่านร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ เช่น Best Buy, LensCrafters, Sunglass Hut และ Ray-Ban Stores และจะขยายไปยังร้าน Verizon บางสาขา ส่วนต่างประเทศ ทางบริษัทมีแผนเข้าวางตลาดในแคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักรในช่วงต้นปี 2569

ที่มา meta

dailygizmo

นักเขียนสาย Introvert ที่ชื่นชอบเรื่องนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างกับ มังงะ, เสียงเพลงและ idol