คนที่ใช้งานอุปกรณ์อย่าง laptop เป็นหลักน่าจะคุ้นเคยกันดี ว่า ‘พอร์ตหูฟัง 3.5mm’ ที่ให้มานั่นคุณภาพอาจไม่ดีสักเท่าไร แต่สิ่งนี้กลับไม่เป็นแบบนั้นบน ‘Macbook Air 2024’ ครับ หลังมีคนทดสอบพบว่าคุณภาพดีเทียบเท่า DAC ราคาแตะหลัก 1,000 เหรียญ (ประมาณ 30,000 บาท) เลยทีเดียว !
ผู้ใช้เว็บบอร์ด Audio Science Review บัญชี mcdn ได้ออกมาเผยผลทดสอบ ว่าแจ็ค 3.5mm บนตัวเครื่อง Macbook Air 2024 มีค่าอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนและการบิดเบือน หรือ SINAD (Signal-to-Noise and Distortion Ratio) ในระดับ 97.9dB เทียบเท่า DAC ฝั่งเดสก์ท็อประดับ hi-end อย่าง RME หรือ Topping ที่มีราคาราว ๆ 30,000 บาท กันเลย
ยิ่งไปว่านั้น ยังสามารถขับหูฟังที่ความต้านทานสูงได้ดี เช่น 29mW ที่โหลด 300Ω, 48mW ที่โหลด 30Ω และ 85mW ที่ 15Ω เรียกว่าเพียงพอสำหรับหูฟังที่ขับยากระดับ 300Ω อย่าง Sennheiser HD650 โดยไม่ต้องพึ่งแอมป์แยก
นอกนี้ยังพบว่าสัญญาณเสียงที่ไดีมีค่าความเพี้ยนหรือ THD+N ต่ำ รวมถึง multitone, crosstalk และ frequency response ทำได้อย่างใสสะอาด และมีความเสถียรสูง แม้ใช้ร่วมกับหูฟังที่มีค่าความต้านทานที่หลากหลาย ถึงกับกล่าวว่ามีค่าความเพี้ยนต่ำในระดับที่มนุษย์จะแยกแยะได้ยาก ซึ่งแม้จะใช้ความดันต่ำที่ 50mV ก็ยังได้ค่า SINAD ที่สูงถึง 89.1dB อยู่ดี
ตัว Macbook ยังมีระบบตรวจจับความต้านทานของหูฟังแต่ละตัวได้แบบอัตโนมัติครับ โดย Apple เริ่มใส่ฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ในอุปกรณ์ช่วงปี 2021 โดยจะทำการตรวจวัดค่าความต้านทานทันทีเมื่อเสียบแจ็ค 3.5mm แล้วจึงกำหนดแรงดันให้อย่างเหมาะสมกับหูฟังตัวนั้น ๆ
ซึ่งหูฟังที่มีความต้านทานต่ำกว่า 150Ω จะมีการจ่ายแรงดันที่ 1.25V, หูฟัง 150–1,000Ω จ่ายแรงดัน 3V และหูฟังทีมีความต้านทานระดับ 1,000Ω (เช่นโหลด line-level) จะมีการปรับแรงดันให้ลดเหลือ 1V เพื่อความปลอดภัย
แม้ตัวพอร์ต 3.5mm ของ Macbook จะยอดเยี่ยมขนาดนี้ แต่ต้องบอกก่อนว่ายังไม่เพียงพอต่อการทำ line-out เพราะมีแรงดันสูงสุดเพียง 1V เท่านั้น การใช้ฟังเพลงกับหูฟังระดับ 300Ω อาจเพียงพอ แต่สำหรับอุปกรณ์ระดับโปร อย่าง เพาเวอร์แอมป์หรือมิกเซอร์ระดับสตูดิโอนั่นยังคงต้องการอุปกรณ์ DAC/AMP เสริมอยู่ดี
หลายคนอาจจะมีคำถามในใจแล้วว่าทำไมพอร์ตหูฟังของ Macbook Air มันถึงดีแบบนี้ โดยมีผู้ใช้งานเว็บบอร์ดที่ใช้ชื่อว่า xxie ซึ่งเป็นอดีตวิศวกรของ Apple ได้ออกมาเล่าว่า การพัฒนาในส่วนนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นของการระบาดของไวรัสโควิด-19 เลยครับ
ในระหว่างที่เขา work from home อยู่ที่บ้าน ก็ได้หยิบหูฟังรุ่นเก่าอย่าง AKG K240 และ K501 ที่ขับค่อนข้างยากมาใช้งาน จนสุดท้ายแล้วหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้ จึงกลายมาเป็นตัวกำหนดทิศทางของโพรเจกต์ไปในที่สุด ซึ่งแต่เดิมเขาตั้งใจให้กำลังขับของ Macbook สูงถึง 4Vrms เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนที่วางขายจริง Apple ได้ลดค่าลงเหลือ 3.2Vrms ก็เพื่อความปลอดภัยต่อหูผู้ใช้นั่นเอง
เรื่องราวนี้สร้างความประทับใจให้กับเหล่านักฟังเพลงได้ไม่น้อยเลยล่ะครับ โดยชื่นชมเหล่าวิศวกร Apple ที่ใส่ใจใส่ของที่ดีแบบนี้มาใน Macbook ที่เป็นเพียง laptop แต่กลับทำได้ดีเกินคาดไปมาก
ที่มา: Headphonesty และ Audio Science Review