เปิดตัว Apple Watch Series 11, Ultra 3 และ SE 3 อัปเกรดทั้งไลน์อัป พร้อมฟีเจอร์วัดความดัน

THE SUMMARY:

Apple เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะพร้อมกันถึง 3 รุ่นในปีนี้ ได้แก่ ‘Apple Watch Series 11’, ‘Ultra 3’ และ ‘SE 3’ ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดทั้งไลน์อัป ชูคอนเซปต์อุปกรณ์ช่วยชีวิต ที่มาพร้อมฟีเจอร์วัดความดัน กระตุ้นการออกกำลังกาย และแจ้งเตือนอาการผิดปกติของร่างกาย

Apple Watch Series 11

เริ่มจาก Apple Watch Series 11 ที่มีปรับตัวเรือนให้บาง และทนทานมากขึ้น หน้าจอเปลี่ยนมาใช้กระจก Onyx Glass เคลือบเซรามิกแข็งแรงทนทาน กันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้นถึง 2 เท่า มารอบนี้รองรับ 5G เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น หน้าจอรองรับดีไซน์ใหม่ Liquid Glass พร้อมหน้าปัดใหม่ 

Apple

รอบนี้ชูฟีเจอร์สุขภาพเรื่องของหัวใจ และการนอนเป็นหลัก เริ่มจากฟีเจอร์วัดความดันโลหิตสูงที่บางคนไม่รู้ตัวว่ามีอาการ ด้วยการใช้เซนเซอร์ Optical ร่วมกับ AI มาวัดเส้นเลือด ช่วยตรวจจับความเสี่ยงในรอบ 30 วัน ผ่านแอปฯ Sleep  เพื่อให้ผู้ใส่เปลี่ยนพฤติกรรมหรือเข้ารับการรักษาโดยทันท่วงที ตอนนี้ Apple ได้ยื่นขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง FDA คาดใช้งานได้ใน 150 ประเทศ ทั่วโลก

ฟีเจอร์การนอน ยังมีการเพิ่ม Sleep Score ให้คะแนนคุณภาพการนอนคำนวนจากปัจจัยต่า งๆ  โดยใช้ข้อมูลการนอนกว่า 5 ล้านคืน ด้านแบตเตอรี่รอบนี้ใช้งานได้นาน 24 ชั่วโมงใส่นอนได้สบาย ๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดก่อนหมดวันอีกแล้ว

Apple

สำหรับ Apple Watch Series 11 มีให้เลือกทั้งแบบอะลูมิเนียม และไทเทเนียม พร้อมสายใหม่ Nike Sport Band และสปอร์ตลูป Grand H กับราคาเริ่มต้น

Apple
สาย nike sport

สาย Aluminium

  • 42mm: 14,900 บาท
  • 46mm: 15,900 บาท

สาย Titanium

  • 42mm: 25,900 บาท
  • 46mm: 27,900 บาท

Apple Watch SE 3

ถัดมากับ ‘SE 3’ รุ่นราคาประหยัด ที่รอบนี้อัปเกรดด้วยชิปใหม่ S10 ทำงานเร็วขึ้น หน้าจอรองรับ AOD แล้ว รวมถึงการสั่งงานด้วยท่าทางต่าง ๆ เช่น จีบนิ้ว, พลิกข้อมือ

 ฟีเจอร์ต่าง ๆ มาครบครัน ทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, หยุดหายใจตอนนอน คะแนนการนอน ตรวจจับการล้ม และการชน พร้อมแจ้งเตือนเมื่อมีอะไรผิดปกติ

Apple

นอกจากนี้ยังเอาใจคอเพลง สามารถเล่นเพลง และ podcast จากลำโพงนาฬิกาได้เลยหากไม่มีหูฟัง ด้านแบตเตอรี่ใช้งานนานขึ้น 18 ชั่วโมง ชาร์จเร็วขึ้น 2 เท่า พร้อมความสามารถชาร์จไว 15 นาที ใช้ได้ยาว ๆ ถึง 8 ชั่วโมง ตัวเรือนมี 2 สี คือ สี starlight และดำ ราคาเริ่มต้น 40mm ราคา 8,500 และ 44mm ราคา 9,500 บาท

Apple Watch Ultra 3

จบกันด้วยรุ่นโปร ‘Ultra 3’ เอาใจคนชอบออกกำลังกาย และทำกิจกรรมกลางแจ้งด้วยหน้าจอใหม่ OLED LTPO3 ขอบเล็กลง ทำให้ Ultra 3 กลายเป็นรุ่นที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุด โดยที่ไม่กระทบแบตเตอรี่

Apple

รุ่นนี้ยังรองรับการทำงานกับ Apple Intelligence โดยเชื่อมต่อกับ iPhone ทำให้สามารถพูดสิ่งที่ AI บอกมาได้ รวมถึงให้คำแนะนำการออกกำลังกาย

รอบนี้ยังรองรับทั้งคลื่น 5G และเชื่อมต่อดาวเทียม ด้วยการออกแบบเสาอากาศใหม่ เชื่อมต่อดาวเทียม 800 ดวง สามารถใช้งาน SOS ได้ ส่งข้อความและ find my ได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 42 ชั่วโมง

Ultra 3 ตัวเรือนมี 2 สีคือ สีดำ และสีไทเทเนียมธรรมชาติ พร้อมเพิ่มสายใหม่มีสีเขียว และสาย Hermes ก็มา ในราคาเริ่มต้น 29,900 บาท สำหรับสาย Alpine Loop, Trail Loop, Ocean Band และ 33,900 บาท สำหรับสาย Milanese Loop Titanium

ที่มา: Apple

'ช่างภาพ' ที่เขียนคอนเทนต์ได้ หาเงินซื้อเปียกให้แมว 3 ตัว ที่บ้าน

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...