ล่าสุด (5 สิงหาคม) เพิ่งเกิดเหตุการณ์ไฟดับในพื้นที่สะพานควาย – เขตพญาไทกลางดึกไป ทำให้เกิดความตื่นตระหนกกันสุด ๆ ว่า ในยุคที่ ‘เครื่องใช้ไฟฟ้า’ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์อย่างเรา ตอนไฟดับจะอยู่รอดได้อย่างไร วันนี้เลยอยากแนะนำ ‘5 แกดเจ็ตที่ควรมีติดบ้าน ไว้สู้ยามไฟดับ’ ให้ได้หามาติดบ้านกันไว้ !
ปัญหาแรกที่ทุกคนต้องเจอเมื่อไฟดับ คือเรื่องของอากาศที่ร้อนอบอ้าว การมีพัดลมตั้งพื้น หรือพัดลมขนาดใหญ่ที่มีแบตเตอรี่ในตัว การที่มีพัดลม จะช่วยให้ความเย็น และช่วยระบายอากาศภายในบ้านได้ดีกว่าพัดลมมือถือขนาดเล็ก ๆ ทำให้ต่อให้ไฟดับในเวลากลางวัน ก็จะสบายขึ้น และอึดอัดน้อยลง ซึ่งพัดลมตั้งโต๊ะที่ใช้แบตเตอรี่นี้ ควรเลือกรุ่นที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง และรองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB เพื่อความคล่องตัวในการเติมพลังงานจากแบตเตอรี่สำรองได้ หรือกระทั่งพัดลมแบบพับ ที่มีขนาดใบพัดใหญ่ และพอใช้เสร็จ เราก็ยังพับเก็บไว้เพื่อใช้วันหลังต่อได้ด้วย
เวลาไฟดับ สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นเลยคือความมืด โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลากลางคืน การมีแหล่งกำเนิดแสงที่หวังพึ่งได้เลยกลายเป็นของสำคัญ ไฟฉายที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ ก็เลยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้งที่อาจหมดอายุ หรือไม่พร้อมใช้งานตอนที่เราต้องใช้ ไฟฉายประเภทนี้ แค่เอาไปวางในที่ที่มีแสงแดดในตอนกลางวัน ก็สามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ตอนกลางคืนได้ เรียกว่าลงทุนครั้งเดียว ก็ใช้งานได้ยาว ๆ แถมยังปลอดภัยกว่าใช้เทียนด้วย เพราะว่าเทียนอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้
ในยุคที่สมาร์ตโฟนเป็นเหมือนอวัยวะที่ 33 ของเรา การติดต่อสื่อสาร การรับรู้ข่าวสาร หรือแม้แต่การขอความช่วยเหลือล้วนต้องพึ่งพาสมาร์ตโฟนเช่นนี้ แบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์แบงก์ที่มีความจุสูง (High-Capacity Power Bank) เลยเป็นแกดเจ็ตที่ขาดไม่ได้ การเลือกพาวเวอร์แบงก์ที่มีความจุมากพอ ที่จะชาร์จสมาร์ตโฟนได้หลายรอบ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าช่องทางการสื่อสารของเราจะยังคงใช้งานได้ตลอดช่วงเวลาที่ไฟดับ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ลำบากเมื่อแบตเตอรี่สมาร์ตโฟนหมดไปนั่นเอง
หลายคนมักกังวลเฉพาะช่วงเวลาที่ไฟดับอย่างเดียว แต่ที่อันตรายไม่แพ้กัน คือช่วงเวลาที่กระแสไฟฟ้ากลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งมักเกิดภาวะไฟกระชาก (Power Surge) ที่อาจทำให้แผงวงจรของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือตู้เย็น เกิดปัญหาขึ้นมาได้ การลงทุนกับปลั๊กไฟที่มีระบบป้องกันไฟกระชาก ก็เลยเหมือนกับเพิ่มการป้องกันให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้าน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเหมือนกัน เพื่อป้องกันความเสียหายในระยะยาว
นอกจากนี้ บ้านไหนที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้ามากกว่าแค่การชาร์จมือถือ เช่น คนที่ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่ต้องมีกำลังไฟอยู่ หรือบ้านที่มีผู้ป่วย ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดเล็ก ต้องการไฟฟ้าหล่อเลี้ยงตลอดเวลา พาวเวอร์แบงก์อาจจะไม่พอ ทำให้ ‘Power Station’ หรือสถานีพลังงานไฟฟ้าสำรองแบบพกพา จะตอบโจทย์กว่าไม่น้อยเลย เพราะอุปกรณ์นี้ มีความจุไฟฟ้าสูงกว่าพาวเวอร์แบงก์หลายเท่า แถมยังให้ช่องจ่ายไฟที่หลากหลาย ทั้งปลั๊กไฟ AC แบบปกติ, USB-A, และ USB-C ทำให้สามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดได้พร้อมกัน เวลาที่เราจำเป็นต้องใช้ไฟจำนวนมาก ๆ Power Station ก็จะตอบโจทย์กว่านั่นเอง
นอกจากเรื่องของแกดเจ็ตที่เหมาะกับการใช้งานในช่วงที่ไฟดับแล้ว ยังมีเรื่องของเสบียงที่เพียงพอด้วยนะ โดยผู้เชี่ยวชาญ ได้แนะนำให้มีเสบียง และน้ำให้เพียงพอสำหรับการใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า 6 ชั่วโมงโดยไม่มีไฟฟ้า แต่ในชีวิตจริง ไฟอาจจะดับแค่ 20 นาที หรืออาจจะหายยาวไปเป็นวัน ๆ เลยก็ได้ ดังนั้น ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ จะดีกว่าเยอะเลย