หนึ่งในดีไซน์ยอดฮิตของมือถือก็คือ ดีไซน์แบบ Clamshell (ฝาพับ หรือ “เปลือกหอย”) ด้วยการใช้บานพับเปิดปิด เพื่อให้ตัวเครื่องกะทัดรัด รวมถึงปกป้องหน้าจอและปุ่มกดจากรอยขีดข่วนเวลาไม่ได้ใช้งาน วันนี้ทาง CEEi.co จะพาไปย้อนรอยที่มาและพัฒนาการของมือถือฝาพับกัน
ต้องบอกว่าดีไซน์แบบฝาพับนั้นเรียกว่านำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งของใช้ทั่วไปอย่างเช่น กล่องบรรจุอาหาร ส่วนวงการคอมพิวเตอร์ก็มีการนำมาใช้กับ Grid Compass 1101 คอมพิวเตอร์พกพาของบริษัท Grid Systems ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 1982 ที่เรียกว่าเอาดีไซน์ฝาพับมาใช้เป็นรุ่นแรกๆ
ด้วยดีไซน์คล้ายกระเป๋าเอกสารที่มีบานพับอยู่ตรงกลางเครื่อง กางออกมาเป็นหน้าจอพร้อมแป้นพิมพ์สำหรับใช้งานแบบพกพา ซึ่งเป็นต้นแบบของแล็ปท็อปในยุคต่อๆ มา
ส่วนในวงการมือถือนั้นมีการนำดีไซน์ฝาพับมาใช้ตั้งแต่ปลายยุค 80s เป้าหมายหลักก็เพื่อให้มีขนาดเล็กกว่ามือถือดีไซน์แบบแท่ง ซึ่งจุดเริ่มต้นมือถือฝาพับเครื่องแรกของโลกคือ Motorola MicroTAC ที่เปิดตัวในปี 1989
รุ่นนี้ถือว่ายังไม่ใช้มือถือฝาพับเต็มรูปแบบ เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีในสมัยนั้น เราจะเห็นแค่ฝาพับพลาสติกด้านหน้าที่พับเพื่อปิดปุ่มกดเท่านั้น ส่วนค่าตัวก็สูงถึง 2500 เหรียญ แต่ก็ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับมือถือแบบพับรุ่นถัดๆ มา
ส่วนมือถือฝาพับแบบเปิด-ปิดที่แท้ทรู มีบานพับอยู่ตรงกลาง รุ่นแรกที่ออกมา คือ Motorola StarTAC เมื่อปี 1996 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Grillo โทรศัพท์บ้านแบบฝาพับที่ออกโดย Richard Sapper และ Marco Zanuso เมื่อปี 1965
นอกจากจะเป็นฝาพับ ซ่อนหน้าจอและปุ่มกดเอาไว้ด้านในแล้ว รุ่นนี้ยังเป็นรุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน ด้วยขนาดที่กะทัดรัดพกพาสะดวก รวมถึงปรับแต่งเสียงเรียกเข้าได้ ทำให้รุ่นนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำยอดขายมากกว่า 60 ล้านเครื่องทั่วโลก นั่นทำให้คู่แข่งอย่าง Nokia และ Ericsson ก็หันออกมาทำมือถือฝาพับมากขึ้น
พอเข้าสู่ยุคต้นปี 2000s มือถือฝาพับได้รับความนิยมมากขึ้น ค่ายต่างๆ เริ่มใส่ฟีเจอร์มากขึ้น ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้จอสี เพิ่มกล้อง รวมถึงใส่เครื่องเล่นเพลงเข้าไปในโทรศัพท์ จนกลายเป็นยุคทองของมือถือฝาพับ
รุ่นยอดนิยมสุดๆ ก็คือ Motorola Razr V3 ที่ออกมาเมื่อปี 2004 ชูการออกแบบที่เพรียวบาง ดูหรูหราสะท้อนถึงความเป็นแฟชันของผู้ใช้ฝั่งของ Samsung, Nokia, SONY ก็ออกมือถือ Clamshell หลากหลายรุ่นที่เจาะตลาดได้ดีมาก
แต่การมาของสมาร์ตโฟนอย่าง iPhone ในปี 2007 ตามมาด้วยแอนดรอยด์ในปี 2008 ที่มาพร้อมระบบจอสัมผัส ส่งผลให้ความนิยมของมือถือฝาพับค่อยๆ ลดน้อยลง จนมาถึงช่วงกลางปี 2010 ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่จึงตัดสินใจหยุดผลิตโทรศัพท์แบบฝาพับ
จริงๆ แล้วมือถือฝาพับไม่ได้หายไป แต่ในบางประเทศอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีนั้นยังได้รับความนิยมสูงอยู่ ทำให้บางบริษัทเริ่มใส่ฟีเจอร์อัจฉริยะเข้าไป เช่น หน้าจอสัมผัสและการเชื่อมต่อ 3G/4G/5G
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มือถือจอพับเริ่มกลับมาได้ความสนใจมากขึ้นเกิดมาจากความนิยมของแพตฟอร์มอย่าง TikTok ทำให้ผู้ใช้รุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักมือถือฝาพับมากขึ้น จนเกิดกระแสเรโทร กลุ่มเจน Z แห่ไปใช้มือถือฝาพับรุ่นเก่าตามๆ กันเมือ่ปี 2019
เนื่องจากตลาดสมาร์ตโฟนนั้นมีการแข่งขันกันสูงมาก ยอดขายไม่เข้าไป หลายบริษัทพยายามหาตลาดใหม่ๆ ที่เป็นบลูโอเชียน นั่นก็คือ เทคโนโลยีหน้าจอพับได้ (Foldable Display)
จริงๆ แล้วค่ายมือถือได้สำรวจความเป็นไปได้ของหน้าจอพับได้ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษปี 2000 แต่เราเห็นความชัดเจนขึ้นเมื่อปี 2018 ตอนที่ Royole บริษัทจากจีนสร้างความฮือฮาด้วยการเผยโฉมต้นแบบสมาร์ตโฟนจอพับเป็นรายแรก ต่อจากนั้นก็นำไปโชว์ตัวในงาน CES ในเดือนมกราคม 2019
หลังจาก Royole เปิดตัวมือถือจอบพับไปได้หนึ่งเดือน ซัมซุงก็เปิดตัว Infinity Flex Display หน้าจอต้นแบบสำหรับสมาร์ตโฟนจอพับในงานประชุมประจำปีของตัวเอง จนมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ทางซัมซุงก็เปิดตัว Galaxy Fold สมาร์ตโฟนจอพับแบบ Bar type พับและกางออกในแนวตั้ง ด้วยหน้าจอด้านนอกขนาด 4.6 นิ้ว กางออกมาจะได้จอขนาดใหญ่ถึง 7.5 นิ้ว
ฝั่ง HUAWEI ก็ออก Mate X ตามมาติดๆ ในจีน หลังจากที่ซัมซุงวางขาย Galaxy Fold ได้เพียงสองเดือนนั่นทำให้คนทั้งโลกหันมาสนใจมือถือจอพับมากขึ้น
ต่อมาในปี 2020 ทาง Motorola ที่จับตาตลาดนี้อยู่แล้วได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนฝาพับรุ่นใหม่ด้วยการชูดีไซน์ที่แตกต่าง ด้วยการคืนชีพ Motorola RAZR มือถือฝาพับที่โด่งดังในช่วงต้นปี 2000 ด้วยการนำดีไซน์แบบ Clamshell กลับมาใช้อีกครั้ง เรียกว่าผสมผสานสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์ฝาพับดีไซน์คลาสสิกได้อย่างลงตัว
หลังจาก Motorola RAZR เปิดตัวได้แค่ 4 วัน ทาง Samsung ก็ประกาศเปิดตัว Galaxy Z Flip และวางจำหน่ายเพียงไม่กี่วันต่อมา ด้วยความเรียบง่ายของมือถือจอพับ รวมถึงขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวกจึงทำให้มือถือจอพับกลับมาครองใจผู้ใช้ได้ไม่ยาก ส่งผลให้ Galaxy Z Flip กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นของปี 2020
หลังจากนั้นแบรนด์จีนเองก็เข้ามาชิงตลาดมือถือจอพับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น OPPO, Oneplus, Nubia จนไปถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Google Pixel จาก Google ฝั่งของ Apple เองก็ซุ่มพัฒนาสมาร์ตโฟนจอพับอยู่เช่นกัน
ทางผู้ผลิตเองก็พยายผลักดันมือถือจอพับให้เป็นกระแสหลัก ด้วยการปรับปรุงออกแบบและฟังก์ชันการทำงานให้ดีขึ้น พร้อมๆ กับเพิ่มความทนทานและทำราคาให้จับต้องได้ง่ายขึ้น สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงอิทธิพลของมือถือจอพับที่จะอยู่คู่กับเราไปอีกหลายปี
ที่มา sixtysixmag / cnn / O2 / Torro