เดี๋ยวนี้เวลาเราจะซื้อคอมพิวเตอร์เข้าออฟฟิศสักเครื่องหนึ่ง ก็จะมาพร้อมกับความคาดหวังหลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น สเปกทำงานไหวไหม หน้าตาดูดีหรือเปล่า แล้วจะกินที่โต๊ะทำงานเยอะไหม ซึ่ง All-In-One มักจะเป็นคำตอบที่ลงตัวเสมอครับ ซึ่ง ASUS ก็ได้ออก All-In-One ที่เหมาะกับสายธุรกิจสุด ๆ เหมาะมาเป็นคอมทำงานเครื่องต่อไปในออฟฟิศทุกคนแน่นอน กับ ASUS ExpertCenter P440VA เครื่องนี้นั่นเอง บทความนี้จะพาไปดูความสามารถที่เจ้า All-In-One เครื่องนี้ทำได้ ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่ยังมี AI และความปลอดภัยเหมาะกับองค์กรด้วยนะ
รุ่นที่เรารีวิวกันอยู่นี้คือรุ่นโมเดล ‘P440VAK-WPC089X’ เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับ CPU Intel Core i5-13420H, RAM ขนาด 16GB และ SSD ความจุ 512GB ด้วยกัน แต่ว่า ASUS ExpertCenter P400 Series นั้นจะมีดีไซน์ และฟีเจอร์ภายในที่เหมือนกันเป๊ะ ๆ เลย
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับความเป็น ‘All in One’ กันสักเล็กน้อยก่อน คือคอมพิวเตอร์แบบ All in One นั้น มักจะถูกออกแบบมาเพื่อลดพื้นที่ของโต๊ะทำงาน ด้วยการนำเอาส่วนที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ (Case) ออกไป และเน้นให้เหลือแค่จอคอมพิวเตอร์แค่หนึ่งเดียว กับเมาส์ และคีย์บอร์ดไร้สาย เพื่อโชว์ความมินิมอลของโต๊ะทำงานนั่นเอง
ซึ่ง ASUS ExpertCenter P400 Series ทั้งหมดนั้น จะมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูมินิมอลมากขึ้น เน้นวางหลาย ๆ ส่วนให้มีความบางลง ในขณะที่ยังทำให้มีความแข็งแรงอยู่ได้ สังเกตได้จากขาตั้งตัวเครื่อง (รวมจอ) ที่มีความเพรียวบาง แต่ด้วยน้ำหนักของตัวเครื่องที่มากขึ้น และขาตั้งที่เล็กลง เลยต้องแลกมากับความใหญ่ของฐานวางจอด้านล่าง ที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และทำให้กินพื้นที่ของโต๊ะมากขึ้นแบบเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถใช้ฐานนี้เพื่อนำของมาตั้งทับได้อยู่นะ
ข้อดีด้านดีไซน์อีกอย่าง คือการที่ตัวเครื่องนั้น ใช้ขาตั้งที่สามารถปรับแบบระดับได้ High Adjust Stand (HAS) หมายความว่าเราสามารถยกจอให้สูง-ต่ำลง ตามการใช้งาน และความสูงของโต๊ะทำงานเราได้ ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในด้านการใช้งาน และสุขภาพคอของเราเลย นึกภาพว่าถ้าเราอยากยืนทำงาน เราก็สามารถยกจอให้สูงขึ้นและยืนทำงานได้ด้วยนั่นเอง นอกจากนั้น ขาตั้งนี้ยังสามารถหมุนจอให้เป็นแนวตั้งก็ได้, หมุนจอไปทางซ้าย – ขวา แล้วก็ปรับก้ม-เงย เพื่อให้เหมาะกับมุมมองของเรามากที่สุดก็ได้ด้วย แปลว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ ก็จะเหมาะกับคนหลาย ๆ แบบมากขึ้นด้วยนั่นเอง สำหรับสายลึก ก็สามารถถอดจอออกจากขาตั้ง แล้วเองไปต่อกับขาจับจออื่น ๆ ที่รองรับ VESA mount ได้เลยด้วยเหมือนกัน แต่ขาตั้งที่แถมมาก็ถือว่ามีความหลากหลายดีแล้วนะ
ASUS ExpertCenter P400 Series มีขาย 2 สีด้วยกัน คือสีขาว (ที่รีวิวกันอยู่นี้) และสีดำ ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานในออฟฟิศหลากหลายแบบเลย หรือจะทำเป็น Home Office ก็เหมาะนะ แล้วก็ ที่เรียกว่า P400 Series ก็เพราะว่า ASUS P400 Series นั้นแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ตามขนาดจอ โดยแบ่งได้ตามนี้เลย
ซึ่งทั้ง 2 รุ่นย่อย ก็จะแบ่งเป็นรุ่นที่มีสเปกแยกย่อยลงไปอีกทีนั่นเอง
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสเปกไหนก็ตาม ก็ได้ให้เมาส์ และคีย์บอร์ดมาในกล่องแล้วเรียบร้อย โดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม โดยให้มาเป้นเมาส์และคีย์บอร์ดไร้สาย ในสีที่เข้ากันกับตัวเครื่อง และสามารถเชื่อมต่อใช้งานได้ด้วยพอร์ต USB-A ตัวเดียวเท่านั้น
ไหน ๆ พูดเรื่องพอร์ตแล้ว พอร์ตของ ASUS ExpertCenter P400 Series นั้นได้ให้มาเยอะแบบจุใจมาก ๆ ทั้งพอร์ต LAN (RJ45), USB 3.2 Gen 1 Type-A 3 ช่อง, USB 2.0 Type-A 1 ช่อง, USB 3.2 Gen 1 Type-C 1 ช่อง แล้วไหนจะมีพอร์ต HDMI ทั้ง HDMI out 1.4 และ HDMI in 1.4 อีกต่างหาก นั่นแปลว่า เราจะต่อ ExpertCenter เครื่องนี้ไปออกจอ หรือโปรเจคเตอร์ แบบที่ใช้วางในห้องเรียน หรือจะใช้เป็นจอมอนิเตอร์ ที่เราจะเอาคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นมาเสียบต่อ แล้วใช้เป็นจอมินิเตอร์ก็ทำได้ด้วย เรียกว่าเป็นการออกแบบที่หลากหลายมากจริง ๆ
ส่วนกล้องเว็บแคมนั้น ในรุ่น ASUS ExpertCenter P440VAK-WPC089X ที่รีวิวกันอยู่นี้ จะใช้กล้องความละเอียด 1080p FHD พร้อมเซนเซอร์อินฟาเรต เพื่อไว้ใช้ล็อกอินเข้าคอมพิวเตอร์ด้วย Windows Hello ได้ในตัวเลย แถมยังมีชัตเตอร์ ที่สามารถสไลด์เปิด และปิดเพื่อความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวได้ด้วย
อีกอย่างคือ ASUS ExpertCenter P400 Series นั้นได้ผ่านการทดสอบทางการทหาร MIL-STD-810H ให้ด้วยนะ อาจจะไม่ได้ทดสอบถึงขั้นทำตกโชว์ หรือมายกน้ำหนักด้วยน้ำหนักสูง ๆ แบบที่ ASUS ใช้ทดสอบ ASUS ExpertBook รุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ได้ทดสอบโหด ๆ ทั้งในด้านการทำงานในที่เย็นจัด ร้อนจัด หรือความกดอากาศสูง และในที่ ๆ มีความชื้นจัด ก็ยังสามารถทำงานได้ดีอยู่นะ นั่นคือ ต่อให้เราซื้อ ASUS ExpertCenter P400 Series มาใช้งานในที่ร้อนจัดแบบอากาศประเทศไทย ไม่ได้ไว้ในห้องแอร์ ก็จะยังสามารถทำงานได้ดีอยู่นั่นเอง
หน้าจอของ ASUS ExpertCenter P440VA เครื่องนี้จะเป็นรุ่นขนาดหน้าจอ 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วนหน้าจอ 16:9, รีเฟรชเรต 100Hz ที่เป็นเนื้อจอแบบด้าน, LED Backlit ความสว่างสูงสุด 250nits ที่ความตรงสี sRGB 100% เรียกว่าถ้าพูดด้วยสเปกเปล่า ๆ แล้ว นี่คือหน้าจอของคอมพิวเตอร์ที่เกิดมาเพื่อสายทำงานจริง ๆ ทั้งจอที่สามารถปรับแนวตั้งให้เหมาะกับสายเขียนงาน (ที่บอกไปก่อนหน้านี้) ที่ความละเอียดระดับ Full HD ที่เป็นมาตรฐานสมัยใหม่แล้ว รวมไปถึงความตรงของสีที่ 100% sRGB ด้วย แถมยังได้รีเฟรชเรตที่ 100Hz ให้เวลาทำงานลื่นไหลด้วย
ซึ่งที่ได้ลองใช้มานั้น ก็พบว่าหน้าจอของ ASUS ExpertCenter P440VA เครื่องนี้ สามารถใข้ทำงานได้แบบสบาย ๆ เลย แม้จะไม่ได้รู้สึกถึงความลื่นไหลในระดับจอ 100Hz มากนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องความใหญ่ของหน้าจอ ความคมชัด และเรื่องของสี ถือว่าสามารถทำได้ดีเลยทีเดียว แล้วก็ เวลาใช้งานนาน ๆ อาจจะมีอาการตาล้าอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีผลต่อการใช้งานจริงมากนัก
ส่วนลำโพงของ ASUS ExpertCenter P400 Series ทั้ง 2 รุ่นให้ลำโพงมาเหมือนกันเลย เป็นลำโพงสเตอริโอขนาด 5W 2 ตัวที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ โดยจะเป็นลำโพงที่ส่งเสียงลงด้านล่างแล้วสะท้อนขึ้นมาด้านบนให้เราฟัง ซึ่งจากที่ลองใช้งานมา คือตัวลำโพงมีความกระหึ่มมาก เสียงค่อนข้างดัง และส่งเสียงได้มีความกังวาน แม้จะมีดอกลำโพงแค่ 2 ตัวก็ตาม โดยคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 รุ่นนี้ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วยนะ ระบบเสียงของ ASUS ExpertCenter P400 Series ก็เป็นอีกเรื่องที่หายห่วงได้ กรณีนี้ จะเหมาะกับร้านกาแฟ ที่อยากมีคอมพิวเตอร์ไว้ทำระบบ POS ของร้าน แล้วใช้เปิดเพลงไปด้วยในตัว ก็สามารถทำได้เหมือนกัน
ส่วนถ้าพูดถึงการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้ว เรียกได้ว่า ASUS ExpertCenter P440VA เครื่องนี้ก็สามารถใช้งานได้ดี เหมือนคอมพิวเตอร์ทำงานทั่ว ๆ ไปเลย ทั้งในด้านการทำงานเอกสาร ทำงานออฟฟิศต่าง ๆ ซึ่งด้วยหน้าจอที่ใหญ่ที่ 24 นิ้ว หรือ 27 นิ้วใน P470VA ก็เลยทำให้เราสามารถแบ่งหน้าจอทำงานแบบ 2 จอซ้าย-ขวา หรือจะหมุนจอเป็นแนวตั้ง แล้วใช้เทรดหุ้น หรือพิมพ์เอกสารแบบเห็นครั้งเดียวทั้งหน้าก็ทำได้ คือเหมาะกับการใช้งานได้หลากหลายอย่างเลย
ASUS ExpertCenter P400 Series วางจำหน่ายในหลากหลายสเปกมาก ๆ โดยจะวางขายในสเปก CPU ดังนี้
ซึ่งทั้ง 7 รุ่นนี้ คือสเปกของ CPU โน้ตบุ๊กระดับที่อยู่ทั้งในโน้ตบุ๊กเกมมิ่งบางรุ่น และอยู่ในโน้ตบุ๊กสายทำงานที่สเปกค่อนข้างสูงกันทั้งนั้น ซึ่งความสามารถที่ ASUS ExpertCenter P400 Series ทำได้นั้น จะไม่แตกต่างกันเลย ต่างกันแค่ความแรงของเครื่องตามสเปก CPU เท่านั้น โดยเรื่องความจุของ RAM นั้นจะให้มาที่ 8GB, 16GB หรือ 32GB และ SSD ภายในเครื่องก็จะให้มาที่ 256GB, 512GB หรือ 1TB ตามแต่ละสเปกด้วยเช่นกัน
ข้อดีของ ASUS ExpertCenter P400 Series รุ่นนี้ คือเราสามารถถอดตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยน RAM และ SSD ได้เลย ไม่ได้ฝังอยู่บนบอร์ดใด ๆ แต่อาจจะยังไม่ได้ง่ายมากในระดับที่ว่ามีช่องใส่ RAM, SSD แยกมาให้ขันน็อตตัวเดียวแล้วเปลี่ยนได้ แต่อย่างน้อย ก็ยังพอจะสามารถอัปเกรดตัวเครื่องได้อยู่บ้าง ในกรณีที่ความจุของตัวเครื่องไม่มากพอให้เราเปลี่ยน โดยบนบอร์ดจะมีช่องใส่ RAM แบบคู่ รองรับที่ DDR5 แบบ SO-DIMM สูงสุดที่ 64GB และช่องเสียบ SSD M.2 แบบ NVMe PCIe 4.0 สูงสุดที่ 4TB เลยทีเดียว
ส่วนการระบายความร้อนออกจากเครื่องนั้น ก็สามารถระบายออกผ่านช่องระบายอากาศด้านบนออกได้เช่นเดียวกัน แต่จากที่ได้ใช้มา ตัวเครื่องก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีการระบายอากาศออกมากนักนะ เสียงพัดลมเลยจะเงียบน่าดูเลยทีเดียว
ซึ่งจากสเปกที่เราได้มาทดสอบ และใช้ Intel Core i5-13420H/RAM 16GB/SSD 512GB มานั้น เราได้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ในการหาข้อมูล และทำรีวิวชิ้นนี้ขึ้นมา ซึ่งสเปกนี้ สามารถทำงานสายออฟฟิศได้ทุกอย่างแบบสบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน Microsoft Office หรืองานเอกสารแบบออนไลน์ จำพวก Google Docs หรือ Canva ก็ใช้ได้ หรือจะเอามาใช้ทำงาน Photoshop เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำได้ เพียงแต่ว่า ในซีรีส์ ExpertCenter P400 Series นี้ จะไม่มีการ์ดจอแยกมาให้ใด ๆ ทำให้อาจจะยังไม่สามารถทำงานหนักมาก ๆ เช่นตัดต่อวิดีโอความละเอียดเยอะ ๆ อาจจะยังไม่ได้แบบลื่นไหลนัก แต่ด้วยสเปก CPU ที่ให้มาเยอะ และความสามารถในการอัปเกรดได้ ทำให้ ASUS ExpertCenter P400 Series รุ่นนี้ เหมาะใช้เป็นคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศที่รอบเปลี่ยนอาจจะไม่ได้บ่อยนักได้อีกนานเลยทีเดียว ถ้าเครื่องเริ่มช้า อาจจะเพิ่ม RAM เข้าไปสักตัว เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ลื่นไหลเหมือนเดิมก็ทำได้
นอกจากสเปกภายในเครื่องแล้ว เรื่องความปลอดภัยภายในเครื่องก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยในเครื่องได้ใส่ ASUS ExpertGuardian ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยที่ ASUS ทำมาให้กับคอมพิวเตอร์ใน Expert Series ที่จะเข้ามาปกป้องข้อมูลสำคัญของเราตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ลึกไปจนถึง BIOS ภายในเครื่องเลย และยังได้ให้ TPM 2.0 ซึ่งเป็นโมดูลภายในบอร์ด มาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับคอมพิวเตอร์ พวกรหัสผ่าน พาสคีย์ หรือข้อมูลใบหน้าของเราเวลาสแกนเข้าเครื่องในรุ่นที่รองรับ Windows Hello ด้วย เรียกว่าหายห่วงเรื่องความปลอดภัยไปได้อีกขั้นเลยล่ะ
ASUS Expert Series ในปี 2025 นี้ ไม่ได้เน้นแต่เรื่องการทำงานที่ลื่นไหล และดีไซน์เรียบหรูอย่างเดียว แต่ยังได้ให้ฟีเจอร์ AI ที่จัดเต็มสำหรับสายทำงานโดยเฉพาะอีกด้วยนะ นั่นคือได้ให้โปรแกรม ASUS AI ExpertMeet ซึ่งเป็นโปรแกรม AI สำหรับสายการประชุมโดยเฉพาะ เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับสายทำงานในออฟฟิศแบบสุด ๆ เพราะเขาให้ฟีเจอร์ AI มาใช้งานหลายอย่าง
อย่าง AI Meeting Minutes ที่เป็นฟีเจอร์การถอดคำพูด หรือการประชุมต่าง ๆ ที่ต่อจะให้ยาวแค่ไหน อัดมาจากไหนก็ตาม (หรือจะอัดเองจากในคอมพิวเตอร์เลยก็ได้) ก็สามารถใส่เข้าไปในโปรแกรม แล้วให้ถอดข้อความออกมาจากการประชุมนั้น ๆ มาเป็นข้อความที่สามารถอ่าน หรือนำไปใช้ต่อได้เลย แถมยังสามารถกดให้ AI ช่วยสรุปการประชุมจากที่เราใส่มาได้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้รองรับหลายภาษามาก ทั้งอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส หรือจีน แต่น่าเสียดายที่ยังไม่รองรับภาษาไทยนะ
AI Translated Subtitles ซึ่งเป็นฟีเจอร์ถอดซับไตเติล จากเสียงที่เรากำลังเล่นอยู่ หรือก็คือ ให้เสียงอะไรก็ตามที่เล่นผ่านตัวเครื่อง ผ่านโปรแกรมเพื่อถอดความแบบสด ๆ ได้เลย แถมยังสามารถให้ AI ช่วยแปลภาษาจากคำพูดที่เขาพูดอยู่ก็ได้ด้วย อย่างเช่นเราประชุมในภาษาเยอรมันอยู่ แล้วอยากให้ถอดคำมาเป็นภาษาอังกฤษก็ทำได้เลยจากในตัวเครื่อง เพียงแต่ว่าฟีเจอร์นี้ ก็ยังไม่รองรับภาษาไทยเช่นเดียวกัน
และฟีเจอร์ ‘ลายน้ำ’ ที่เหมือนจะเป็นฟีเจอร์ที่เราไม่ได้นึกถึงมากนัก แต่ก็เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะว่าฟีเจอร์ลายน้ำนี้ จะสามารถใส่ลายน้ำทับเนื้อหาบนจอคอมพิวเตอร์ของเราได้เลยแบบทันที เช่นถ้าเราอยากปิดเนื้อหาที่เราทำเอาไว้ให้เป็นความลับ ก่อนจะเผยแพร่ได้ในวันที่ข้างหน้า ก็อาจจะคาดลายน้ำป้องกันไว้ก่อนได้ หรือถ้าเราอยากเอางานให้ลูกค้าดู แต่ยังไม่ไฟนอล แต่เพื่อป้องกันการขโมย ก็สามารถคาดลายน้ำป้องกันไว้ก่อนได้เช่นกัน ซึ่งตรงนี้เราปรับได้หมดเลยนะ ว่าอยากให้ลายน้ำของเราเขียนว่าอะไร ความเข้มเท่าไหร่ ขนาดใหญ่ไหม ปรับได้หมด
เราสามารถใส่ลายน้ำได้อีกจุดนึงนะ นั่นคือ ‘กล้องเว็บแคม’ ของเรา แต่เราคงไม่คาดลายน้ำบนหน้าของเราแน่นอน กลับกัน ASUS ExpertMeet สามารถใส่ลายน้ำเป็น ‘นามบัตร’ ของเราลงไปได้แทน โดยเราสามารถใส่ข้อมูลการติดต่อต่าง ๆ ของเรา เข้าไปบนกล้องเว็บแคมของเราได้เลย โดยเราสามารถตั้งค่าตัวนามบัตรนี้ได้หลายอย่างมาก ทั้งชื่อ ตำแหน่ง อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ยาวไปจนถึงใส่ QR Code เพื่อให้สำรวจข้อมูลเพิ่มเติมก็ทำได้ เหมาะกับการประชุมกับลูกค้าใหม่ ที่อาจจะยังไม่มีข้อมูลการติดต่อของเรา ก็สามารถทำได้แล้วตอนนี้
เรียกได้ว่า ASUS AI ExpertMeet ได้เข้ามาช่วยให้การประชุมสะดวกขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ASUS นั้นขึ้นชื่อเรื่องประกันในรูปแบบ ‘Perfect Warranty’ มาโดยตลอดครับ โดย ASUS ExpertCenter P400 Series เครื่องนี้ ได้ให้ประกัน 3ปี Onsite Service แบบ Next Business Day หรือจะเข้ามารับเครื่องไปซ่อมเลย ภายในวันทำการถัดไป เพียงแค่เราโทรแจ้งทาง ASUS ก่อน 16.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมถึงที่ ภายในวันทำการถัดไป (เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, สมุทรปราการ และปทุมธานี) แถมอแดปเตอร์ชาร์จไฟ, คีย์บอร์ด และเมาส์ ที่ให้มาในกล่อง ก็มีประกันให้ 3 ปีเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้น ASUS ยังได้ให้ประกันอุบัติเหตุ 1 ปี (ASUS Perfect Warranty) ที่จะครอบคลุมความเสียหายจากอุบัติเหตุ สำหรับค่าอะไหล่ 80%, ค่าแรง 100% แปลว่าเราจ่ายค่าอะไหล่แค่ 20% เท่านั้นเอง แม้เราเผลอทำเครื่องพังจากอุบัติเหตุก็ตาม เรียกว่าเป้นประกันที่ให้มาเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ ASUS ExpertCenter P400 Series เครื่องนี้ได้แบบยาว ๆ เลยนั่นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ เราน่าจะพอเห็นภาพกันแล้วว่า ASUS ExpertCenter P440VA นั้น คือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบ All-in-One ที่เกิดมาเพื่อสายทำงานจริง ๆ และเหมาะจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไปใช้งานในธุรกิจแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น จะออฟฟิศ, Co-Working Space ให้ยืมใช้, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, โรงเรียน หรือจะใช้เป็นคอมพิวเตอร์ภายในบ้านของเราเองก็ได้ทั้งนั้น เพราะ ASUS EXpertCenter P400 Series นี้ วางขายทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย และมีรุ่นที่วางขายแบบทั่วไปให้กดซื้อได้เลยด้วยแล้วตอนนี้
นี่เป็นหนึ่งในก้าวใหม่ ครั้งแรก ๆ ของ ASUS ที่ตัดสินใจนำเอา ASUS Expert Series ออกมาวางจำหน่ายในรูปแบบ B2C หรือวางจำหน่ายในกับคนทั่วไปได้เลือกซื้อกันด้วยนะ โดย ASUS ExpertCenter P440VA รุ่นที่วางขายผ่าน ASUS Official Store เองเลย จะมีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน ก็คือ
แต่นอกจากนั้น ก็ยังมีรุ่นอื่น ๆ ในซีรีส์เดียวกัน ที่สามารถซื้อได้ผ่านตัวแทนจำหน่าย ASUS Business เหมือนเดิม ซึ่งก็จะมีสเปกและรุ่นให้ได้เลือกมากกว่านี้อีกด้วย เพราะสินค้าบางรุ่น สำหรับธุรกิจและองค์กรขนาดใหญ่ อาจจะต้อง Made-to-order ตามที่เราสั่งมาเท่านั้น อาจจะไม่ได้มีให้เลือกซื้อทันที
ASUS ExpertCenter P440VA คือคอมพิวเตอร์ All in One ขนาด 24 นิ้ว ที่เหมาะจะเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องต่อไปในออฟฟิศของเราไม่น้อยเลย แถมด้วยความหาซื้อได้ง่ายกว่าเดิม และฟีเจอร์ความปลอดภัย และ AI ระดับองค์กร ต่อให้งานต่อไปของเราจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ASUS ExpertCenter P440VA เครื่องนี้ก็จะตอบโจทย์ของเราได้แน่นอน
ASUS ExpertCenter P440VA อาจดูเหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะดีไซน์เรียบง่ายสำหรับออฟฟิศทั่วไป แต่เบื้องหลังความมินิมอลนั้น ยังมีความสามารถมาซ่อนไว้อยู่ไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นขาตั้งที่ปรับได้อิสระจนสามารถหมุนจอเป็นแนวตั้งได้, พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบ ๆ ใช้เป็นมอนิเตอร์เสริมให้อุปกรณ์อื่นได้ทันที ไปจนถึงฟีเจอร์ AI ที่เข้ามาช่วยในการประชุมออนไลน์ แต่ความสามารถที่อัดแน่นมานี้จะมีข้อสังเกตอย่างไร และจะเหมาะกับธุรกิจของคุณจริงไหม ?