
ตัวเลือก “Update and shut down” ใน Windows ถูกออกแบบมาให้ทำงานตรงตามชื่อ คือ ติดตั้งอัปเดตที่ค้างอยู่แล้วปิดเครื่องทันที ฟีเจอร์นี้ในทางทฤษฎีควรมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในช่วงเลิกงานหรือหลังเล่นเกมตอนกลางคืน เพื่อให้เช้าวันถัดมาระบบพร้อมใช้งานด้วยเวอร์ชันล่าสุด แต่ในความเป็นจริง กว่าทศวรรษที่ผ่านมา ผู้ใช้กลับมีปัญหากับฟีเจอร์ดังกล่าวที่ไม่สามารถทำงานได้ตามที่ระบุ
ปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เลือก “Update and shut down” ระบบจะเข้าสู่ขั้นตอน offline servicing เพื่ออัปเดตไฟล์ที่กำลังถูกใช้งาน หลังจากนั้น แทนที่จะปิดเครื่องตามที่สัญญาไว้ Windows กลับบูตกลับไปที่หน้าล็อกอินอีกครั้ง สำหรับผู้ใช้เดสก์ท็อป ปัญหานี้อาจเป็นเพียงความรำคาญเล็กน้อย แต่สำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊ก มันอาจทำให้แบตเตอรี่หมดไปทั้งคืนเพราะเครื่องเปิดค้างไว้ ส่งผลกระทบต่อการทำงานในวันถัดมาได้

ในหลายปีที่ผ่านมา บั๊กนี้เป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงและบ่นกันอย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้งานที่บางส่วนมองว่ามันสะท้อนถึง หนี้ทางเทคนิค (technical debt) ที่สะสมอยู๋ในระบบปฏิบัติการ Windows และการที่ Microsoft ใช้เวลานานกว่าทศวรรษกว่าจะได้รับการแก้ไขก็แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและข้อจำกัดในการจัดการกับโค้ดที่มีมายาวนาน
Microsoft ได้ออก Windows 11 Servicing Stack Update (KB5067035 – 26100.7010) เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยปล่อยอัปเดตออกมาในสองระยะ:
แม้ Microsoft จะไม่ได้อธิบายสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Windows ถึงไม่สามารถปิดเครื่องหลังอัปเดตได้ แต่การแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ผู้ใช้รอคอยมานานกว่า 10 ปี
ที่มา : Techspot





