AI ได้แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนใช้ AI ในการถามตั้งแต่เรื่องส่วนตัวไปจนถึงเรื่องงานในชีวิตประจำวัน สร้างความสะดวกสบายอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่สิ่งที่เสียไปคือแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์แทน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีลอนได้สำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นักวิเคราะห์ และนักวิชาการจำนวน 301 คน ซึ่งรวมถึงวินต์ เซิร์ฟ (Vint Cerf) หนึ่งในบิดาแห่งอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันเป็นรองประธานของ Google และยังมีโจนาธาน กรูดิน (Jonathan Grudin) ศาสตราจารย์จากคณะสารสนเทศของมหาวิทยาลัยวอชิงตันและอดีตนักวิจัยและผู้จัดการโครงการของ Microsoft, ชาร์ลี ไฟร์สโตน (Charlie Firestone) อดีตรองประธานบริหารของ Aspen Institute และเทรซี ฟอลโลวส์ (Tracey Follows) ซีอีโอของ Futuremade ต่างแสดงความคิดเห็นเรื่องความกังวลในการพึ่งพา AI มากเกินไป โดยเขียนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญออกมาในหัวข้อว่า
ผู้เชี่ยวชาญกว่าแสดงความคิดเห็นว่าการพึ่งพา AI ที่มากเกินไปจะลดทักษะที่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์ กว่า 60% ระบุว่าอีก 10 ปีข้างหน้า AI จะเปลี่ยนแปลงความสามารถของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ชนิดที่เรียกว่าการปฏิวัติเลยก็ว่าได้ ครึ่งหนึ่งมองว่า AI จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับมนุษยชาติทั้งในทางที่ดีขึ้นและแย่ลงในระดับที่เท่ากัน ในขณะที่ 23% กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะแย่ลง มีเพียง 16% เท่านั้นที่กล่าวว่า AI จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
ที่น่ากังวลที่สุดในภายในปี 2035 ทักษะถึง 12 อย่างของมนุษย์จะได้รับผลกระทบจากการมาของ AI อย่าง ความฉลาดทางอารมณ์และสังคม, ความสามารถในการคิดเชิงลึก, ความเห็นอกเห็นใจ, การใช้ดุลยพินิจ/การตัดสินใจทางศีลธรรม และสุขภาพทางจิตใจ การที่เราใช้ AI เพื่อความสะดวกสบายในทุกเรื่อง ตั้งแต่การค้นคว้าข้อมูลไปจนถึงการตัดสินใจสิ่งสำคัญ อาจทำให้ความสามารถในการใช้ทักษะเหล่านี้แย่ลง นำไปสู่ปัญหาสังคมที่น่าเป็นห่วง เช่น ความแตกแยกที่รุนแรงขึ้น, ความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้น และการสูญเสียความสามารถในการตัดสินใจด้วยตัวเอง
ในทางกลับกัน ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการมาของ AI มีเพียง 3 ประเด็นที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ได้แก่ ความอยากรู้อยากเห็นและความสามารถในการเรียนรู้, การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับความนิยมในเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างสรรค์งานศิลปะหรือแก้โจทย์โค้ดดิ้งที่ซับซ้อนได้ในปัจจุบัน
วินต์ เซิร์ฟ อนาคตผู้คนจะใช้ AI ในการทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น การจองร้านอาหารไปจนถึงการพูดคุยทางธุรกิจที่มีความซับซ้อน แต่อย่าลืมว่า AI อาศัยไฟฟ้า หากไม่มีไฟฟ้าก็อาจเกิดปัญหาได้ ถือว่าเป็นความเปราะบางอย่างหนึ่งของ AI ด้าน เทรซีย์ ฟอลโลวส์ เตือนว่าอนาคตมนุษย์อาจใช้ AI ในการทำงานที่ต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจ เช่น เรื่องความเมตตา การให้กำลังใจ หรือแม้กระทั่งการดูแลผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ละเลยความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับมนุษย์ด้วยกันเอง
ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าทศวรรษหน้าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่มนุษย์เราต้องเลือกว่าจะใช้ AI เพื่อเพิ่มความเป็นมนุษย์ หรือลดทอนความเป็นมนุษย์ลง
ที่มา CNN