งานวิจัยพบ หมอมีสกิลการวินิจฉัยมะเร็งที่แย่ลงหลังพึ่งพา ​AI มากเกินไป

THE SUMMARY:

แทบจะทุกวงการอุตสาหกรรมมีการนำ AI มาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงาน แม้แต่วงการสุขภาพเองก็เช่นเดียวกัน แต่งานวิจัยใหม่พบว่าหมอที่ใช้ AI ช่วยวินิจฉัยมะเร็งกลับมีฝีมือการวินิจฉัยมะเร็งที่ลดลง

งานวิจัยที่เผยแพร่โดย Lancet Gastroenterology and Hepatology พบว่าในช่วงเวลา 6 เดือน แพทย์เริ่มพึ่งพาคำแนะนำจาก AI มากเกินไป และกลายเป็นคนที่มีแรงจูงใจน้อยลง มีสมาธิน้อยลง และมีความสามารถในการตัดสินใจที่ลดลงหากไม่ได้รับการพึ่งพา AI

ในการรวบรวมข้อมูล นักวิจัยจากสถาบันต่าง ๆ ในยุโรปได้ทำการศึกษาเชิงสังเกตผ่านศูนย์ส่องกล้อง 4 แห่งในโปแลนด์ ซึ่งในการทดลองจะเป็นการเปรียบเทียบโดยให้แพทย์ใช้ AI ที่ถูกพัฒนามาเพื่อหามะเร็งในการช่วยวินิจฉัยก้อนเนื้อว่าเป็นมะเร็งหรือก้อนเนื้อธรรมดา โดยแพทย์จะมีระยะเวลาทั้งหมด 6 เดือน แบ่งเป็น 3 เดือนแรกที่ใช้ AI ในการช่วยวินิจฉัย และอีก 3 เดือนที่ต้องใช้ฝีมือตัวเองเท่านั้น ผลการเก็บข้อมูลพบว่า แพทย์ที่ใช้เครื่องมือ AI ช่วยตรวจพบเนื้องอก 28% ในช่วง 3 เดือนแรก แต่เมื่อเป็นช่วงที่ไม่ใช้ AI พบว่าตรวจเนื้องอกพบ 22% นั่นหมายความว่าอัตราการตรวจพบเนื้องอกลดลงไป 6%

มาร์ซิน โรมานิชชิก (Marcin Romańczyk) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยนี้ระบุว่ามันเหมือนกับการที่เราใช้งาน Google Maps เป็นประจำ วันหนึ่งที่เราไม่มี Google Maps และต้องใช้แผนที่ธรรมดาก็จะทำให้ฝีมือในการใช้แผนที่ไม่ดีไปด้วย

นอกจากนี้ การพึ่งพา AI ยังทำให้แพทย์ขาดความมั่นใจในการวินิจฉัยโรคมะเร็งด้วยตัวเอง รวมถึงสกิลในการใช้งานอุปกรณ์ เช่น การส่องกล้องลดลง เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทางการแพทย์แนะนำว่าควรมีการรักษาทักษะทางการแพทย์และพัฒนาความสามารถของมนุษย์ควบคู่ไปกับการใช้ AI และควรออกแบบระบบ AI ที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการตัดสินใจของแพทย์ ไม่ใช่ทำให้เกิดการพึ่งพา AI โดยสิ้นเชิง

ที่มา The Verge

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...