ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ด้วยเครื่อง OREUM ที่สามารถสแกนเส้นเลือดและจอประสาทตาก็สามารถวิเคราะห์อาการป่วยได้หลายโรค
การเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนเลือดในจอประสาทตาอาจบ่งบอกถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด การที่เส้นเลือดเสียหายอาจนำไปสู่ปัญหาไตเรื้อรัง รวมถึงความไม่สมดุลในระบบประสาทอัตโนมัติของคุณก็อาจปรากฏให้เห็นในรูปแบบโรคจอประสาทตาเสื่อม
การวินิจฉัยโรคหัวใจและหลอดเลือดหรือโรคไตต้องอาศัยการตรวจหลายรายการแยกกัน เช่น การตรวจเลือด การสแกน CT และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การวินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น ทาง ARK Inc. จากเกาหลีใต้จึงได้พัฒนา OREUM เครื่องสแกนดวงตาที่มาพร้อม AI ที่ฝึกด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงภาพดวงตากับสภาวะต่างๆ ของร่างกาย ช่วยวิเคราะห์ภาพถ่ายดวงตาให้บอกอาการป่วยของหลายๆ โรคได้แม่นยำและเร็วขึ้น
หัวใจสำคัญคือ เอ็นจิ้น AI ซึ่งฝึกฝนจากภาพทางการแพทย์หลายแสนภาพ รวบรวมและตรวจสอบโดยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติปูซาน ซึ่งแตกต่างจากเครือข่ายประสาทเทียมแบบ Convolutional แบบดั้งเดิมที่ต้องฝึกฝนแบบจำลองทั้งหมดตั้งแต่ต้น ส่งผลให้ AI ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
AI จะตรวจจับรูปแบบของหลอดเลือดขนาดเล็กและโครงสร้างที่สัมพันธ์กับปัญหาในอวัยวะอื่นๆ ได้ เช่น ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังหรือโรคหัวใจและหลอดเลือดมักแสดงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและสม่ำเสมอในหลอดเลือดจอประสาทตา
สิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยให้กับพยาบาลหรือแพทย์สามารถจับสัญญาณการเจ็บป่วยได้ทันที ไม่ใช่แค่โรคตาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาวะแทรกซ้อนของหัวใจและไตด้วย เพียงแค่ถ่ายภาพจอประสาทตาเท่านั้น ก็จะรู้ผลลัพธ์ในเวลาไม่กี่นาที พร้อมด้วยภาพและคำอธิบายที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ป่วย
นอกจากนั้นแพลตฟอร์มนี้ยังผสานรวมกับระบบ PACS ของโรงพยาบาลผ่าน ARK-Bridge ซึ่งเป็นเกตเวย์ที่แปลงไฟล์ประเภทต่างๆ เป็นรูปแบบ DICOM ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการข้อมูลระหว่างคลินิกและโรงพยาบาลอีกด้วย
สำหรับผู้ป่วย เครื่องมือนี้ช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย และทำให้เข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น ขณะที่สำหรับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ OREUM เปิดโอกาสสร้างรายได้ใหม่ โดยทำให้แพทย์ปฐมภูมิสามารถตรวจคัดกรองโรคที่เดิมต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รายงานได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย แม้พยาบาลก็สามารถใช้ได้ แต่ยังคงให้ข้อมูลเชิงลึกเพียงพอสำหรับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมทางการแพทย์ที่เร่งรีบ
ในอนาคต ARK ตั้งเป้าขยายการใช้ OREUM ให้กว้างกว่าแค่คลินิกและโรงพยาบาล ขยายไปสู่ร้านแว่นตาที่คนเข้ามาตรวจสายตาหรือเลือกซื้อแว่นเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ลดอุปสรรคในการเข้ารับการรักษา และเปลี่ยนการตรวจตาธรรมดาให้เป็นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
ที่มา ubergizmo