OpenAI ประกาศเปิดตัว GPT-5 โมเดล AI เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด โดยเปิดให้ผู้ใช้งาน ChatGPT และนักพัฒนาทุกคนใช้งานได้แล้ว
แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI บอกว่า GPT-5 ถือเป็นการก้าวกระโดดในการพัฒนา AI เป็นอย่างมาก จากโมเดลตัวก่อน ๆ โดยแซมได้บอกประสบการณ์หลังใช้งานว่า เหมือนกับการได้ใช้ iPhone ที่มีหน้าจอ Retina เป็นครั้งแรก และทำให้ไม่อยากกลับไปใช้ของเดิมอีกเลย
นอกจากนี้ แซมยังบอกความต่างของโมเดลตัวก่อน ๆ กับ GPT-5 ว่า “การใช้ GPT-3 นั้น ให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับนักเรียนมัธยมปลาย ส่วน GPT-4 เหมือนคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัย แต่ตัวใหม่ล่าสุด GPT-5 เป็นครั้งแรกที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้คุยกับคนจบปริญญาเอกจริง ๆ”
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ChatGPT ที่ใช้ GPT-5 จะได้ความสามารถในการคิดเชิงลึก (Thinking) ที่สามารถวิเคราะห์โจทย์ที่ซับซ้อนจากผู้ใช้ และฉลาดรอบรู้ในหลากหลายวิชา เช่น คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, การเงิน และกฎหมาย เหมือนมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาระหว่างใช้งาน
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น
ในฝั่งของนักพัฒนา GPT-5 ก็ถูกมองว่าเป็นโมเดลที่เขียนโค้ดเก่งที่สุด และสามารถทำตามคำสั่งที่มีความซับซ้อน เขียนโค้ดคุณภาพสูง และเขียนส่วน UI ได้ รวมไปถึงมีการปรับปรุงการควบคุมบุคลิกของ AI และมีพารามิเตอร์ API ใหม่ ได้แก่ minimal, reasoning และ verbosity สำหรับตัวโมเดล จะแบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 3 รุ่น คือ GPT-5, GPT-5 mini และ GPT-5 nano ซึ่งแต่ละตัว จะมีค่าใช้จ่าย Input และ Output ที่ต่างกัน
ส่วนภาคธุรกิจ GPT-5 ถูกออกแบบมาให้เป็นโมเดล AI ที่คิด และให้ความแม่นยำสูง เช่น เขียน วิเคราะห์ข้อมูล แก้ไขปัญหาเชิงซ้อน ซึ่งจุดเด่นสำคัญที่สุดของภาคธุรกิจ คือ เชื่อมต่อข้อมูลในองค์กรได้ เช่น เชื่อมต่อไฟล์ใน Google Drive หรือ SharePoint โดยยังคงเคารพสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล (Permission) เดิมขององค์กร
สำหรับฟีเจอร์ในภาคธุรกิจเหล่านี้ พร้อมใช้งานแล้วใน ChatGPT Team และจะเปิดให้ผู้ใช้งานในระดับ Enterprise และ Education ได้ใช้ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม เป็นต้นไป
ที่มา : OpenAI (1), OpenAI (2)