OpenAI เปิดตัว AgentKit ชุดเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้นักพัฒนาและองค์กรต่าง ๆ สามารถ สร้าง ปรับใช้ และปรับแต่ง AI Agent ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ก่อนหน้านี้การพัฒนา AI Agent ถือเป็นงานที่ซับซ้อน ต้องอาศัยเครื่องมือแยกส่วนและการประสานงานหลายด้าน ทั้งการกำหนดเวอร์ชัน การสร้างตัวเชื่อมต่อแบบกำหนดเอง การประเมินผลด้วยตนเอง การปรับแต่ง Prompt รวมถึงการพัฒนา Front-end เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ใช้งาน
AgentKit ช่วยให้นักพัฒนาสามารถออกแบบเวิร์กโฟลว์และฝัง UI ได้เป็นระบบและรวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน คือ
นอกจากนี้ AgentKit ยังมาพร้อมความสามารถด้านการประเมินที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เช่น การสร้างชุดข้อมูล (Datasets) การจัดระดับการติดตามผล การปรับแต่งพรอมต์อัตโนมัติ (Prompt Optimization) และการรองรับโมเดลจากผู้พัฒนารายอื่น เพื่อให้การวัดประสิทธิภาพและการปรับปรุงเอเจนต์ทำได้อย่างแม่นยำและต่อเนื่อง
OpenAI ระบุว่า ตั้งแต่เปิดตัว Responses API และ Agents SDK เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีนักพัฒนาและองค์กรจำนวนมากนำเครื่องมือเหล่านี้ไปสร้างเวิร์กโฟลว์เอเจนต์แบบครบวงจรในหลากหลายด้าน เช่น การวิจัยเชิงลึก การบริการลูกค้า ไปจนถึงการขายอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น
AgentKit ถือเป็นการต่อยอดจาก Responses API เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างเอเจนต์ที่ มีประสิทธิภาพ เสถียร และเชื่อถือได้มากขึ้น พร้อมรองรับการใช้งานในระดับองค์กร
สำหรับคนที่ต้องการใช้งานนั้น ตอนนี้ ChatKit และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Evals เปิดให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคนใช้งานแล้ว
นอกจากนี้ OpenAI ยังวางแผนที่จะเปิดตัว Workflows API แบบสแตนด์อโลน และตัวเลือกสำหรับปรับใช้เอเจนต์ใน ChatGPT ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสะดวกในการสร้างเวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนา