ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การนำ AI มาใช้ในเครื่องมือค้นหาอย่าง Google Search ช่วยให้การค้นหาข้อมูลกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาและความเสี่ยงจากกลโกงรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยให้มิจฉาชีพสร้างความน่าเชื่อถือและลวงเหยื่อได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
กลโกงใหม่ที่ถูกพบคือการใช้ผลการค้นหาที่สร้างขึ้นโดย Google AI (ฟรเจอร์ AI Overviews) อย่างเคสของริฟลิน (Rivlin) ที่หาข้อมูลของ Royal Caribbean ที่มีการแสดงผลข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์ แต่ที่ปรากฏขึ้นมากลับเป็นหมายเลขโทรศัพท์ปลอมที่มิจฉาชีพตั้งขึ้นเพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานที่ต้องการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า มิจฉาชีพอาศัยเทคโนโลยี AI ของ Google ที่สามารถสร้างเนื้อหาและผลลัพธ์ที่ดูน่าเชื่อถือ ช่วยหลอกลวงให้ผู้ใช้โทรไปยังหมายเลขปลอมแทนที่จะเป็นหมายเลขที่ถูกต้องจริง
ริฟลินเชื่อว่าตนกำลังคุยกับฝ่ายบริการลูกค้าของ Royal Caribbean เนื่องจากบุคคลในสายได้ให้รายละเอียดที่แม่นยำเกี่ยวกับบริการรถรับส่งในเวนิส เสนอราคาค่าบริการ และแม้กระทั่งเจรจาขอยกเว้นค่าบริการบางรายการ หรือมีความเป็นมืออาชีพมาก ในที่สุดริฟลินก็ตกลงจ่ายเงินกว่า 768 เหรียญ โดยริฟลินเป็นผู้ให้ข้อมูลบัตรเครดิตด้วยตนเอง
ในวันต่อมา บัญชีของริฟลินก็เริ่มมีรายจ่ายแปลก ๆ ชื่อบริษัทที่เรียกเก็บเงินไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Royal Caribbean และก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าตนถูกหลอก ริฟลินจึงอายัดบัตรและทางธนาคารก็ยกเลิกยอดดังกล่าวไป
ผมเองก็มีความรู้ด้านเทคโนโลยีไม่น้อยนะ แต่ก็ยังหลงเชื่อไปได้
ไมค์ บลูเมนธัล (Mike Blumenthal) นักวิเคราะห์จาก Near Media ที่ศึกษาพฤติกรรมการค้นหาของผู้บริโภคกล่าวว่า วิธีที่ว่านี้ไม่ใช่วิธีที่แปลกใหม่อะไร แต่อัตราการสำเร็จเพิ่มขึ้นผ่าน AI
ด้าน Google ได้ลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเพื่อตรวจจับและกำจัดข้อมูลสแปมหรือข้อมูลปลอมด้วยระบบ AI ที่สามารถวิเคราะห์และกรองผลการค้นหาเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่แสดงนั้นถูกต้องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Google ยังเน้นให้ความรู้และแนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบและป้องกันกลโกงเหล่านี้ เช่น การตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ผ่านช่องทางทางการหรือตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนติดต่อหรือให้ข้อมูลสำคัญ
ที่มา TechSpot