Meta ยอมทิ้ง Metaverse หันไปลงทุน AI เป็นหลักก่อน

ในหลายปีที่ผ่านมา Metaverse หรือโลกเสมือนเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก บริษัทเทคโนโลยีหลายบริษัทต่างให้ความสำคัญไปที่ Metaverse ในฐานะแพลตฟอร์มยุคถัดไป ซึ่ง Facebook ถึงกับเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta เพื่อเน้นจุดยืนว่าบริษัทจะพัฒนาไปในด้านนี้โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม เทรนด์ของเทคโนโลยีได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน และ Meta เองก็ต้องเปลี่ยนการลงทุนใหม่เมื่อกระแสของปัจจุบันไม่ได้ไปในทาง Metaverse แบบที่บริษัทพยายามสื่อสารมาโดยตลอด

Bloomberg รายงานว่า Meta เตรียมลดงบประมาณในส่วนของ Metaverse ลงไปถึง 30% ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา Reality Labs แผนกที่รับผิดชอบด้าน Metaverse, VR และ XR ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามที่คาดไว้ โดยตั้งแต่ปี 2021 แผนกนี้ทำผลประกอบการขาดทุนสะสมมากกว่า 70,000 ล้านเหรียญ สิ่งที่เคยถูกวาดภาพว่าเป็นอนาคตของบริษัท กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลวไปแทน

Reality Labs มี 2 ส่วนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ Horizon Worlds และโครงการ Virtual Reality Horizon Worlds ซึ่งนับว่าเป็นหัวใจของ Metaverse เป็นพื้นที่สังคมเสมือนสำหรับการพบปะ ทำงาน เล่น และสร้างสรรค์ร่วมกัน แต่กลับไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานในวงกว้างได้ ในแง่ของกราฟิกเองถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก การใช้งานอยู่ในวงจำกัด แม้แต่พนักงานภายในของ Meta เองก็มีรายงานว่าไม่ค่อยได้ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ด้วยซ้ำ

โครงการ VR ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ต่างก็มีขนาดเล็กลง โดย Meta หันไปให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Augmented Reality และ Smart Glasses มากขึ้น โดยเฉพาะแว่นอัจฉริยะที่พัฒนาร่วมกับ Ray-Ban และ Oakley ซึ่งมีเสียงตอบรับที่ดีกว่า VR Headset อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อมีการนำ AI เข้ามาร่วมประมวลผลด้วย

แต่หลังจากโลกหันเข้าสู่กระแส AI ทำให้ Meta ได้รีบปรับตัวตามในทันที โดย AI แสดงให้เห็นคุณค่าอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะด้านประสิทธิภาพการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ ระบบอัตโนมัติ หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การเปิดตัวโมเดล Llama ของ Meta แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถมีบทบาทสำคัญในโลก AI ได้ แตกต่างจาก Metaverse ซึ่งหลังบริษัทเข้ามาสู่สนาม AI นักลงทุนก็แสดงการตอบรับในเชิงบวก ผู้บริโภคได้ใช้งานจริง พลังที่เคยขับเคลื่อน Metaverse ได้ถูกย้ายไปสู่ AI แทน

Metaverse อาจถูกมองว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ หรือบทเรียนราคาแพงของการประเมินความต้องการของตลาดสูงเกินจริง แต่ในอีกมุมหนึ่ง เหตุการณ์นี้ก็สะท้อนธรรมชาติของนวัตกรรมที่ต้องอาศัยการทดลอง ความผิดพลาดที่แท้จริงไม่ใช่ความล้มเหลว แต่คือดื้อดึงกับวิสัยทัศน์ที่ไม่เวิร์กเพียงเพื่อรักษาหน้า และดูเหมือนว่า Meta ได้ตัดสินใจแล้วว่า Metaverse ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม การที่ Meta ลดงบประมาณของโครงการ Metaverse อย่างมหาศาลนั้นก็ไม่ได้แปลว่า Metaverse จะจบลงแต่อย่างใด

ที่มา Linkedin

วัชรกุล พัฒนาประทีป