
Google เดินหน้ายกระดับการช้อปปิ้งออนไลน์ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ชุดใหญ่ก่อนเข้าสู่ฤดูช็อปปิ้งในช่วงวันหยุด ซึ่งมีตั้งแต่การค้นหาคล้ายแชตบอตบน Google Search, ความสามารถใหม่ในแอป Gemini, ระบบ agentic checkout ที่ช่วยทำการสั่งซื้อสินค้าแทนผู้ใช้ ไปจนถึงเครื่องมือ AI ที่สามารถโทรหาร้านค้าใกล้บ้านเพื่อตรวจสอบว่าสินค้ามีสต็อกหรือไม่
วิทยา ศรีนิวาสัน (Vidhya Srinivasan) รองประธานและผู้จัดการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและการค้าขายเชิงพาณิชย์ของ Google อธิบายว่า แม้การช้อปปิ้งออนไลน์จะพัฒนาไปมากแล้ว แต่ประสบการณ์ของผู้ใช้งานยังเต็มไปด้วยขั้นตอนที่จุกจิก ศรีนิวาสันกล่าวว่า Google ต้องการทำให้การช้อปปิ้งนั้นง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกหรือความตื่นเต้นในการช็อปปิ้งอย่างการเลือกซื้อและการเจอสินค้าที่น่าสนใจแบบไม่คาดคิด ซึ่งการนำ AI มาใช้จะช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากออกไปแทน
หนึ่งในการอัปเดตสำคัญคือการเปิดให้ผู้ใช้งานถามคำถามเกี่ยวกับสินค้าใน AI Mode ซึ่งเป็นโหมดค้นหาแบบสนทนา ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์คำถามเหมือนกำลังแชตกับคนปกติ เช่น เสื้อกันหนาวโทนฤดูใบไม้ร่วงแบบสบาย ๆ มีแบบไหนบ้าง ระบบจะตอบกลับพร้อมรูปภาพสินค้า ราคา รีวิว และข้อมูลสต็อกที่มีความแม่นยำสูงมาก
หากเป็นคำถามที่ต้องการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ เช่น สกินแคร์ ระบบอาจแสดงผลเป็นตารางเปรียบเทียบเพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น AI Mode ทำงานร่วมกับ Shopping Graph ของ Google ซึ่งรวบรวมข้อมูลสินค้ามากกว่า 50,000 ล้านรายการ โดยมีการอัปเดตรายการสินค้ามากกว่า 2 พันล้านรายการทุกชั่วโมง ทำให้ข้อมูลสินค้าที่ผู้ใช้เห็นส่วนใหญ่ได้รับจะเป็นข้อมูลชุดล่าสุด

ทางด้านแอป Gemini ก็ได้รับการอัปเดตให้สามารถรประมวลผลในแง่ของการสั่งซื้อได้ดีขึ้น โดยให้คำตอบในรูปแบบไอเดียที่มีรายละเอียดมากกว่าโปรโมชั่นหรือข้อความทั่ว ๆ ไป อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาในช่วงแรก ซึ่ง Google ระบุว่าโฆษณาจะปรากฏใน AI Mode บน Search แต่จะยังไม่แสดงในแอป Gemini เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างทดลอง
อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นคือ agentic checkout ซึ่งถูกนำมาใช้งานใน Google Search รวมทั้ง AI Mode ในสหรัฐฯ ฟีเจอร์นี้สามารถเชื่อมต่อกับร้านค้าอย่าง Wayfair, Chewy, Quince และ Shopify บางแห่ง ผู้ใช้งานสามารถเช็กหรือตั้งงบราคาสินค้าได้ และเมื่อราคาลดลงจนตรงกับราคาที่เราตั้งไว้ ระบบจะให้ผู้ใช้งานยืนยันการซื้อ และ Google จะทำการสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของร้านค้าให้ผ่าน Google Pay โดยมีการขออนุญาตและยืนยันข้อมูลทุกขั้นตอน ไม่มีการสั่งซื้อมั่วซั่ว
Google ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลาเพราะผู้ใช้งานไม่ต้องคอยตรวจสอบราคาบ่อย ๆ อีกทั้งยังช่วยร้านค้าเก็บกลับลูกค้าที่อาจลังเลและไม่ได้กลับมาซื้อสินค้าด้วย

Google ยังเปิดตัวฟีเจอร์ที่ให้ AI โทรหาร้านค้าในพื้นที่เพื่อสอบถามว่าสินค้าที่ต้องการมีสต็อกหรือไม่ ราคาเท่าไหร่ และมีโปรโมชันใดบ้าง โดยใช้เทคโนโลยี Duplex ผสานกับ Shopping Graph ผู้ใช้งานยังสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการในบริเวณใกล้เคียง แล้วสั่ง AI ผ่านฟีเจอร์ “Let Google Call” จากนั้น AI จะโทรสอบถามร้านค้าและสรุปข้อมูลกลับมาให้ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับหมวดของเล่น สินค้าสุขภาพและความงาม รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
Google ระบุว่าบริษัทให้ความสะดวกสบายกับทางร้านด้วย โดย AI จะไม่โทรหาบ่อยเกินไป และจะแจ้งตัวตนว่าเป็นระบบอัตโนมัติที่โทรแทนลูกค้าก่อนทุกครั้ง ซึ่งร้านค้าสามารถปฏิเสธการรับสายประเภทนี้ได้ด้วยเหมือนกัน

ที่มา TechCrunch





