การ์ทเนอร์ชี้ ผู้นำไอทีภาครัฐต้องใช้ GenAI “ลดต้นทุนจริง” ไม่ใช่แค่ “เพิ่มผลิตภาพ”

CEEi TeamAI6 minutes ago5 Views

THE SUMMARY:

การ์ทเนอร์ (Gartner) เผยบทวิเคราะห์ล่าสุด ระบุว่า แม้ผู้นำด้านสารสนเทศ (CIO) ในองค์กรภาครัฐทั่วโลกกำลังเพิ่มงบประมาณสำหรับ Generative AI (GenAI) อย่างก้าวกระโดด แต่การลงทุนเหล่านั้นอาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง หากยังคงมุ่งเน้นเพียงแค่การเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ของพนักงาน โดยชี้ว่ากุญแจสำคัญคือการเปลี่ยนไปใช้ GenAI เพื่อจัดการ “คอขวดเชิงระบบ” และสร้างผลกระทบทางการเงินที่วัดผลได้

Dean Lacheca รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์
Dean Lacheca รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์

ดีน ลาเชคา (Dean Lacheca) รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจล่าสุดของการ์ทเนอร์ พบว่าภายในปี 2026 ผู้บริหารไอทีภาครัฐถึง 80% จะเพิ่มงบประมาณด้าน GenAI ขึ้นอีก 38% เมื่อเทียบกับปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อบริการสาธารณะที่รวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมของหน่วยงานราชการที่ถูกจำกัดด้วยกฎระเบียบและระบบดั้งเดิม (Legacy Systems) ทำให้การเพิ่มผลิตภาพเพียงอย่างเดียวมักไม่เกิดประโยชน์จริง เวลาที่ประหยัดได้มักถูกใช้ไปกับงานอื่นอย่างรวดเร็ว โดยแทบไม่มีผลต่อการให้บริการ งบประมาณ หรือภารกิจหลัก

คุณค่าของ GenAI ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนำไปใช้ในจุดที่เป็นคอขวดของการทำงาน หรือจุดที่จำกัดประสิทธิภาพองค์กร

ดีน ลาเชคา

ผู้นำไอทีภาครัฐจำเป็นต้องเปลี่ยนโฟกัสจากการเพิ่มผลิตภาพ ไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและขยายผลกระทบต่อภารกิจหลัก”

การ์ทเนอร์ได้นำเสนอ 6 กลยุทธ์สำคัญที่ผู้นำไอทีภาครัฐสามารถใช้ GenAI เพื่อขับเคลื่อนภารกิจและลดต้นทุนได้อย่างเป็นรูปธรรม:

  1. ลดงานซ้ำซ้อน (Reduce Double Handling): ปัญหาการกรอกเอกสารหรือคำร้องที่ซ้ำซ้อนทำให้บริการล่าช้าและสิ้นเปลืองงบประมาณ GenAI สามารถใช้ในการประมวลผลล่วงหน้า (Preprocessing) หรือคัดแยกคำร้อง เช่น การประมวลผลคำขอใบอนุญาตก่อสร้าง
  2. ลดต้นทุนการเข้าถึง (Lower Cost of Access): กระบวนการที่ใช้แรงงานคนจำนวนมากทำให้ค่าใช้จ่ายสูง GenAI สามารถทำงานประจำ เช่น การสร้างเนื้อหา หรือการแปลข้อมูล ได้อัตโนมัติ ซึ่งจะเปลี่ยนฝ่ายไอทีจาก “Cost Centre” ให้กลายเป็น “Value Creator”
  3. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Increase Operational Efficiency): บุคลากรภาครัฐเสียเวลาหลายชั่วโมงไปกับการเขียนรายงานและการบันทึกข้อมูล GenAI สามารถทำงานร่วมกับ Deterministic AI เพื่อเปลี่ยนข้อมูลเสียงและวิดีโอให้เป็นข้อความที่มีโครงสร้างและแม่นยำได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดเวลาในการเขียนรายงานและถอดความได้อย่างชัดเจน
  4. มุ่งลดต้นทุนไอที (Pursue Cost Reduction Within IT): งานวิจัยของการ์ทเนอร์ระบุว่า กว่า 15% ของงบประมาณไอทีภาครัฐหมดไปกับการจ้างงานภายนอก (Outsourcing) CIO สามารถใช้ GenAI เป็นเครื่องมือต่อรองในการเจรจาสัญญาใหม่ ซึ่งอาจช่วยลดราคาลงได้ 5-20% ในงานอย่างฝ่ายบริการ (Service Desk)
  5. ลดตัวแปรที่เกิดจากบุคคลที่สาม (Reduce Third Party Variables): หน่วยงานรัฐมักพึ่งพาการทำสัญญาระยะสั้นกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกสำหรับงานเฉพาะทาง เช่น การออกแบบ หรือแคมเปญสื่อสาร GenAI สามารถมอบประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญเหล่านี้แบบออนดีมานด์ ช่วยให้ทีมภายในจัดการงานได้ทันทีและลดค่าใช้จ่ายโดยตรง
  6. สร้างสัญญาที่รัดกุมและลดภาวะงบประมาณบานปลาย (Stronger Contracts and Cost Inflation Reduction): ต้นทุนที่สูงขึ้นมักเกิดจากข้อกำหนดในสัญญาที่อ่อนแอ GenAI สามารถประมวลผลสัญญาในอดีตหลายพันฉบับ เพื่อตีความภาษาที่คลุมเครือ และส่งสัญญาณเมื่อพบข้อกำหนดค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมที่ถูกมองข้าม ช่วยให้ CIO สามารถเจรจาต่อรองข้อกำหนดที่เข้มแข็งขึ้นได้

การ์ทเนอร์ยังแนะนำว่า ในขณะที่นำ AI มาใช้มากขึ้น องค์กรภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับ “การให้มีมนุษย์ร่วมตรวจสอบ (Human In The Loop)” และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้การใช้ GenAI สามารถปลดล็อกผลประโยชน์ในวงกว้าง และก้าวข้ามความสำเร็จเพียงเฉพาะจุดได้

See Culture. Spark Innovation. Illuminate the Future.

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...