Apple เผย Foundation Models Framework เครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาในการสร้าง ฟีเจอร์ AI ที่ทำงานได้แบบออฟไลน์และปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
เฟรมเวิร์กนี้เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ได้แก่ iOS 26, iPadOS 26 และ macOS 26 ซึ่งมาพร้อม โมเดลภาษาขนาดใหญ่บนอุปกรณ์ (On-Device LLM) ช่วยให้นักพัฒนาสามารถออกแบบฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลบนคลาวด์
นอกจากนี้ การทำงานของ Foundation Models ยังใช้ การอนุมานด้วย AI ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถยกระดับศักยภาพของแอป เพิ่มประสบการณ์แบบเฉพาะตัว และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว และนี่คือตัวอย่างแอปบางส่วนที่ได้เริ่มนำเฟรมเวิร์กนี้ไปใช้แล้ว
SmartGym เป็นแอปสำหรับวางแผนและติดตามการออกกำลังกายที่สะดวกและมีดีไซน์สวยงาม แอปใช้ Foundation Models Framework ในการอธิบายท่าออกกำลังกายและแปลงเป็นกิจวัตรประจำวันที่มีโครงสร้างชัดเจน พร้อมกำหนดจำนวนครั้ง เวลาพัก และการปรับอุปกรณ์ต่างๆ
ฟีเจอร์ Smart Trainer จะเรียนรู้จากกิจวัตรของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสนอคำแนะนำ เช่น การปรับจำนวนครั้ง การเปลี่ยนน้ำหนัก หรือการสร้างกิจวัตรใหม่ พร้อมคำอธิบายเหตุผลเบื้องหลังแต่ละคำแนะนำ
นอกจากนี้ SmartGym ยังสร้าง สรุปข้อมูลการออกกำลังกายอย่างชาญฉลาด ครอบคลุมภาพรวมความคืบหน้ารายเดือน การแบ่งย่อยกิจวัตร และประสิทธิภาพของแต่ละบุคคล โดยนำเสนอในรูปแบบเรียบง่าย เข้าใจง่าย ผู้ใช้สามารถรับ ข้อความโค้ชชิ่งปรับตามสไตล์การออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกายเสร็จ สามารถบันทึกข้อมูลส่วนตัวหรือสร้างบันทึกอัตโนมัติจากกิจวัตรที่ทำ
ทุกครั้งที่เปิดแอป SmartGym จะแสดงข้อความต้อนรับแบบไดนามิกเฉพาะบุคคล เพื่อสร้างประสบการณ์การออกกำลังกายที่เฉพาะตัวและเป็นมิตรกับผู้ใช้
Stoic เป็นแอปบันทึกประจำวันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง และได้รับ ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มความสุข ปรับปรุงประสิทธิภาพ และรับมือกับอุปสรรคต่างๆ
ด้วยการใช้ Foundation Models Framework แอปสามารถส่ง ข้อความแจ้งเตือนส่วนบุคคล ที่สร้างขึ้นจากบันทึกล่าสุด เช่น หากผู้ใช้บันทึกอารมณ์ไม่ดีหรือนอนหลับไม่เพียงพอ แอปจะส่งข้อความให้กำลังใจและแสดงความเห็นอกเห็นใจ ข้อความแจ้งเตือนทั้งหมดถูกสร้างบนอุปกรณ์ จึง คงความเป็นส่วนตัวของบันทึกผู้ใช้
นอกจากนี้ Stoic ยังสามารถแนะนำ ข้อความแจ้งเตือนเชิงบริบท เพื่อกระตุ้นการไตร่ตรอง รวมถึง วลีเริ่มต้นที่ปรับแต่งได้ ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มบันทึกได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถทบทวนบันทึกเก่าในมุมมองใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Foundation Models ซึ่งรวมถึง
ทั้งหมดนี้ทำให้ Stoic เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจตัวเองและพัฒนาตนเองได้อย่างลึกซึ้งและเป็นส่วนตัว
แอปสุขภาพและฟิตเนสหลายตัวได้นำ Foundation Models Framework มาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ สำหรับผู้ใช้
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Foundation Models ช่วยให้แอปฟิตเนสและสุขภาพสามารถ ปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน และสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น
CellWalk แอปชีววิทยาแบบอินเทอร์แอคทีฟ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สำรวจเซลล์สามมิติในระดับโมเลกุล และทำความเข้าใจกลไกทางชีววิทยาของสิ่งมีชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง เหมาะสำหรับทั้งนักศึกษาและนักวิจัยที่ต้องการเรียนรู้เชิงลึก
ผู้ใช้สามารถเลือกคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่คุ้นเคยเพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติมได้ โดยแอปจะใช้ Foundation Models Framework ในการสร้าง คำอธิบายเชิงสนทนาแบบเรียลไทม์ อ้างอิงจากฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ภายในแอป อีกทั้งยังสามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับความรู้ของผู้ใช้ผ่านการตั้งค่าโปรไฟล์ส่วนตัว พร้อมบันทึกประวัติการเรียนรู้เพื่อช่วยทบทวนในภายหลัง
นอกจากนั้นยังมีแอปการศึกษาอีกหลายแอปได้เริ่มนำ Foundation Models Framework มาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นส่วนตัวและโต้ตอบได้
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Foundation Models ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปการศึกษาที่ โต้ตอบได้ ปรับให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน และช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แอป Stuff ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ติดตามสิ่งที่ต้องทำตลอดทั้งวัน จัดระเบียบชีวิต และบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้ Foundation Models Framework แอปสามารถเข้าใจ วันเวลา แท็ก และรายการต่างๆ ขณะที่ผู้ใช้พิมพ์ เช่น การพิมพ์ “โทรหาโซเฟียวันศุกร์” Stuff จะเพิ่มรายการลงในตำแหน่งที่เหมาะสมทันที
ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ Stuff ช่วยให้การจัดการงานเป็นเรื่องง่าย สะดวก และตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาด
ไม่ว่าผู้ใช้จะกำลังสร้าง วิดีโอบล็อกครั้งแรก หรือผลิตคอนเทนต์สำหรับ โซเชียลมีเดีย อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายของ VLLO ช่วยให้การตัดต่อวิดีโอเป็นเรื่องสนุกและเป็นธรรมชาติ
แอปยกระดับการตัดต่อด้วยการผสาน Foundation Models Framework และ Apple Vision Framework อย่างราบรื่น ทำให้ VLLO สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างวิดีโอได้อย่างชาญฉลาด พร้อม แนะนำเพลงประกอบและสติกเกอร์ไดนามิก ที่เหมาะกับแต่ละฉากโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอที่มีความเป็นมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
แอปด้านความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพการทำงานหลายตัวได้ใช้ Foundation Models Framework เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Foundation Models ช่วยให้แอปเหล่านี้ ทำงานได้ชาญฉลาดมากขึ้น และปรับตัวเข้ากับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เฟรมเวิร์ก Foundation Models ถูกผสานเข้ากับ Swift อย่างแนบเนียน ช่วยให้นักพัฒนาสามารถส่งคำขอไปยัง โมเดลบนอุปกรณ์ที่มีพารามิเตอร์ถึง 3 พันล้านตัว ได้ง่ายจากโค้ดที่มีอยู่
เฟรมเวิร์กนี้รองรับ การสร้างแบบมีไกด์ (Guided Generation) ซึ่งรับประกันว่าโมเดลจะตอบสนองในรูปแบบที่สอดคล้องและน่าเชื่อถือ นักพัฒนาสามารถจัดเตรียม เครื่องมือ (Tools) ให้โมเดลเรียกกลับเข้าสู่แอปเมื่อจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้มั่นใจว่าโมเดลมีข้อมูลครบถ้วนสำหรับการประมวลผลและสร้างคำตอบ
Foundation Models Framework พร้อมใช้งานบน iOS 26, iPadOS 26 และ macOS 26 และสามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่รองรับ Apple Intelligence ทุกเครื่องเมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้
ที่มา apple