ช่วงนี้ AI ถูกพูดถึงในมุม “เพิ่มประสิทธิภาพ” “ช่วยคนทำงานได้ดีขึ้น” แต่รายงานล่าสุดจาก Stanford Digital Economy Lab กลับบอกอีกด้านที่น่ากังวลกว่า และยืนยันสิ่งที่ผมได้เคยสังเกตไว้ตั้งแต่ปีก่อนว่า
AI กำลังทำลายโอกาสของคนเริ่มต้นทำงานใหม่ คนรุ่นใหม่กลับน่าเป็นห่วงกว่าคุณลุงอายุ 45 ที่กำลังจะเกษียณอายุเยอะ
งานวิจัยนี้มีชื่อว่า Canaries in the Coal Mine? Six Facts about the Recent Employment Effects of Artificial Intelligence ซึ่งเขียนโดย Professor Erik Brynjolfsson ผู้มีชื่อเสียงในการวิเคราะห์ข้อมูลผลิตภาพในอุตสาหกรรม IT มายาวนาน
ชื่อของงานวิจัยนี้ ตั้งชื่อตามนกคีรีบูน (Canary) ที่คนทำเหมืองมักจะเอาลงไปด้วย เพราะมันอ่อนไหวกับอากาศ ถ้าอากาศเริ่มไม่ค่อยมีอ็อกซิเจน มีคาร์บอนมอนอกไซด์เยอะ จนเริ่มเป็นอันตราย นกคีรีบูนที่หายใจไว มีขนาดเล็ก และมีการเผาผลาญพลังงานสูง มันจะได้รับผลกระทบมากกว่า จนอาจจะสลบ/เสียชีวิตก่อนที่คนทั่วไปจะรู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ และทำให้คนทำเหมืองรู้ตัว และหนีก่อนที่จะเสียชีวิตตามได้
ชื่องานจึงสื่อให้เห็นว่า งานนี้จึงเปรียบเสมือนนกคีรีบูนในโลกการจ้างงานยุคใหม่ที่สลบไปแล้ว และกำลังเตือนให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นกัน
ในสหรัฐอเมริกา มีบริษัทชื่อ ADP ที่ทำระบบ payroll ให้กับบริษัทต่างๆ จำนวนมาก ทำให้บริษัทนี้มีฐานข้อมูลการจ้างงานขนาดใหญ่ และย้อนหลังไปหลายสิบปี ซึ่งนักวิจัยจาก Stanford University ได้เอาข้อมูลการจ้างงานคนกว่า 25 ล้านคน อายุ 18-70 ปี ในช่วงระหว่างปี 2021-2025 มาวัดผลกระทบจาก AI จริง ๆ และพบว่า
ในสายงานที่ AI เข้ามาแทนได้ง่าย บริษัทลดการจ้างคนอายุ 22–25 ปีลงอย่างมีนัยสำคัญ (13%) อย่างงาน Software Developer งานหายไปมากถึง 20% เลยทีเดียว เหมือนบริษัทเลือกไม่ลงทุนฝึก “เด็กใหม่” เพราะ AI ทำแทนได้เลย
คนที่ทำงานมานานในสายเดียวกันยังคงถูกจ้างต่อ ไม่ได้รับผลกระทบชัดเจน
สิ่งที่หายไปคือ “ตำแหน่งงาน” ไม่ใช่ “ค่าตอบแทน” บริษัทไม่ได้ลดเงินเดือนคน แต่เลือกไม่จ้างเพิ่มแทน ดังนั้นผลกระทบคือ “ตำแหน่งงานแรก” หายไปมากกว่า
ใครที่บอกว่า AI ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเครื่องมือของคนที่ใช้ AI จริง อย่าไปเชื่อเสียหมดครับ
เราอาจจะเห็นข่าวลดคนในวงการเทคเป็นส่วนใหญ่ แต่ข้อมูลนี้กลับแสดงให้เห็นผลกระทบในวงการไม่ได้จำกัดในวงการเทคเท่านั้น
ดราม่าเด็กจบใหม่ เริ่ม!
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊กของคุณณัฐ เหลืองนฤมิตชัย