หรือฟองสบู่กำลังจะแตก? ซีอีโอของ Google บอกเอง การลงทุน AI ในปัจจุบันเรียกว่าไม่สมเหตุสมผลแล้ว

THE SUMMARY:

ปัจจุบัน ตลาดมีความกังวลว่า AI กำลังมาถึงจุดที่เรียกว่าฟองสบู่ ซึ่ง ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของ Google ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าการลงทุน AI ในปัจจุบันนั้น ไม่สมเหตุสมผลเกินไป

พิชัยบอกกับทาง BBC ว่า หากฟองสบู่ AI เกิดแตกจริง ทุกบริษัทจะได้รับผลกระทบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึง Google เองด้วย แม้พิชัยจะมองว่า การลงทุนใน AI ตอนนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ อย่างดูเกินจริงและไม่สมเหตุสมผล ความกังวลเรื่องฟองสบู่เกิดขึ้นเพราะมูลค่าของบริษัท AI หลายบริษัท เพิ่มสูงมากในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงเงินลงทุนมหาศาลที่อาจไม่สัมพันธ์กับรายได้จริง บางคนเปรียบฟองสบู่ AI กับฟองสบู่ดอตคอมที่เคยพุ่งแรงก่อนกราฟจะทิ่มลงจนต้องร้องขอชีวิต ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากปิดตัวลงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าของ Alphabet เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านล้านเหรียญ สะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนว่า Google มีศักยภาพที่จะสามารถต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง OpenAI โดยเฉพาะด้านการพัฒนาชิป AI เพื่อแข่งขันกับ Nvidia ซึ่งเพิ่งมีมูลค่าทะลุ 5 ล้านล้านเหรียญ แต่อีกด้าน นักวิเคราะห์จำนวนมากยังตั้งคำถามกับดีลมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านเหรียญของ OpenAI เนื่องจากรายได้จริงของบริษัทไม่ได้มีมากขนาดนั้น

พิชัยระบุว่า Google มีความได้เปรียบจากการควบคุมเทคโนโลยีแบบครบวงจร ตั้งแต่ชิป ข้อมูล YouTube ไปจนถึงโมเดล AI และงานวิจัย ทำให้สามารถรับมือความผันผวนในตลาดได้ดีกว่าบริษัทอื่น นอกจากนี้ Alphabet หรือบริษัทแม่ของ Google ยังลงทุ่นด้วยเงินจำนวนมากถึง 5,000 ล้านปอนด์ในสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการวิจัย AI พร้อมเตรียมฝึกโมเดล AI ในประเทศ ซึ่งรัฐบาลอังกฤษมองว่าจะช่วยให้สหราชอาณาจักรกลายเป็นมหาอำนาจด้าน AI อันดับ 3 ของโลก

แม้ว่าการเติบโตของ AI จะเป็นโอกาสครั้งใหญ่ แต่พิชัยเตือนว่าเทคโนโลยี AI ใช้พลังงานสูงมาก โดยปีที่ผ่านมา AI ใช้ไฟฟ้าถึง 1.5% ของการใช้พลังงานทั่วโลก ซึ่งพิชัยมองว่าต้องมีการขยายแหล่งผลิตพลังงานใหม่และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน หากไม่ทำ อาจกลายเป็นข้อจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ พิชัยยอมรับว่าเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทอาจล่าช้า แต่ยังคงมีเป้าหมายเป็น Net Zero ในปี 2030

สำหรับผลกระทบต่อแรงงานนั้น พิชัยมองว่า AI คือเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนที่มนุษย์เคยสร้าง และจะเปลี่ยนวิธีการทำงานในแทบทุกอาชีพ งานบางอย่างจะเปลี่ยนรูปแบบ บางงานอาจลดลง แต่ก็จะเกิดโอกาสใหม่ ๆ ขึ้น ผู้ที่จะอยู่รอดและก้าวหน้า คือผู้ที่สามารถเรียนรู้และใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมในการทำงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นครู แพทย์ หรืออาชีพใด ๆ ก็ตาม ท้ายที่สุด พิชัยเชื่อว่า AI จะเป็นเหมือนเช่นเดียวกันกับอินเทอร์เน็ต แม้จะมีช่วงที่การลงทุนที่เกินจริง แต่ความสำคัญของ AI นั้นก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเป็นของจริง

ที่มา BBC

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...