แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความนิยมในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอย่าง ‘Hard Disk Drive’ (HDD) จะมีแนวโน้มที่ลดลงในหมู่ผู้ใช้งานทั่วไป จากการมาของ Flash Memory อย่าง ‘Solid State Drive’ (SSD) ที่มีความเร็วสูงกว่ากันหลายเท่า กับราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ล่าสุด มีรายงานว่าผู้ผลิต HDD รายใหญ่อย่าง Western Digital (WD) และ Seagate ยอดขายกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากกระแสการมาของเทคโนโลยี AI ที่ทำให้ต้องพึ่งพาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่าง
หลังจากที่มีรายงานว่าข้อมูลใน SanDisk SSD หาย มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ แม้ทาง SanDisk จะปล่อยเฟิร์มแวร์ออกมาแก้ปัญหา แต่ก็ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ทางบริษัทแม่อย่าง Western Digital ถูกฟ้องร้องในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาซึ่ง SSD รุ่นที่มีปัญหาได้แก่ จากข้อมูลของ Futurezone รายงานว่า ปัญหานี้เกิดจากการออกแบบและกระบวนการผลิตส่งผลให้ทำงานผิดพลาด การบัดกรีไม่แน่นหนาพอที่จะยึดชิ้นส่วนเข้ากับแผงวงจร ชิ้นส่วนเองก็มีขนาดใหญ่เกินไปจนทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่ผิดปกติและความร้อนสูง ส่งผลให้เกิดฟองที่รบกวนจุดเชื่อมต่อทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้หายไป แม้ทาง Western Digital ออกเฟิร์มแวร์เพื่อแก้ปัญหา แต่ก็แก้ได้แค่ชั่วคราวเพราะปัญหาเกิดจากฮาร์ดแวร์ ซึ่งใน SSD รุ่นใหม่นั้นจะเพิ่ม epoxy
คุณสเตฟาน มันเดิล (Stefan Mandl) รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและจีน บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวว่า “การบริโภคคอนเทนต์ดิจิทัลกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยฐานผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการผลิตเนื้อหาวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K และ 6K อีกด้วย” เขาเพิ่มเติมอีกว่า “ผู้บริโภคต่างต้องการที่จะบันทึกบรรยากาศรอบๆ ตัวพวกเขาในมุมมองที่แตกต่างไม่เหมือนใครและแชร์ออกไปให้ชาวโลกได้เห็น การ์ด SanDisk Extreme PRO® SDXC™ UHS-II (V60) จึงได้มอบโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ดีเยี่ยมด้านประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความทนทาน ที่เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปรวมถึงช่างภาพ
