ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ประกาศเข้าซื้อ IO Products เพื่อดึงโจานาธาน ไอฟ์ (Jonathan Ive) อดีตหัวหน้าทีมออกแบบของ Apple มาร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ยังไม่เปิดเผย แต่ต่อมาก็ต้องลบประกาศเรื่องดีลลงทั้งหมดเนื่องจากมีข้อพิพาทจากทางบริษัทชื่อ Iyo Inc. ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ AI เช่นกัน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเกี่ยวกับการใช้ชื่อ IO ด้วย
ไม่นานมานี้ OpenAI ประกาศเข้าซื้อ IO Products บริษัทออกแบบด้านฮาร์ดแวร์ที่ก่อตั้งโดย โจนาธาน ไอฟ์ (Jonathan Ive) อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Apple ซึ่งดีลดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 6,500 ล้านเหรียญ และยังนับเป็นก้าวแรกของ OpenAI ที่ออกมาทำฮาร์ดแวร์ด้วย
Amazon MGM Studios เตรียมสร้างภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงอันน่าจับตามองของวงการเทคโนโลยี อย่างกรณีแซม อัลต์แมน (Sam Altman) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท OpenAI ที่ถูกคณะกรรมการปลดจากตำแหน่งฟ้าผ่า ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งกลับมาภายในเวลาเพียง 5 วัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2023 นี้ กำลังจะถูกถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์มภายใต้ชื่อเรื่องว่า “Artificial” รายงานจาก The Hollywood Reporter ระบุว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนากับ Amazon MGM Studios โดยมีการเจรจาให้ลูกา กวาดาญีโน
OpenAI สำรวจความสนใจของนักพัฒนา เพื่อเชื่อมต่อแอปและบริการต่างๆ ให้สามารถลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี ChatGPT ได้ ต้องบอกว่า ChatGPT ถือเป็นแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเดือนละ 600 ล้านคน ซึ่งทาง OpenAI เองก็พยายามขยายการใช้งานให้ไปยังผู้ใช้กลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การช้อปปิ้งออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และอุปกรณ์ส่วนตัว หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทาง OpenAI วางแผนไว้ก็คือ “ลงชื่อเข้าใช้ด้วย ChatGPT” เพื่อใช้งานแอปหรือแพลตฟอร์มต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถแข่งขันกับบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Apple, Google
ประชาชนทุกคนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังจะได้ใช้งาน ChatGPT Plus ฟรี ไม่เสียเงินซักบาท โดยข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง OpenAI และรัฐบาล UAE ในโปรเจกต์ AI ขนาดมหึมา
OpenAI บริษัทวิจัย และพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ เจ้าของ ChatGPT ประกาศเข้าซื้อกิจการ io บริษัทฮาร์ดแวร์ของ โจนี ไอฟ์ (Jony Ive) อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Apple ด้วยมูลค่าดีลกว่า 6,500 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 212,095 ล้านบาท
ปัจจุบัน เด็กยุค Gen Z ไม่ได้ใช้ ChatGPT แค่ทำการบ้านหรือแก้ปัญหาอะไรบางอย่างเท่านั้น แต่ยังใช้ AI เพื่อหาคำตอบเรื่องสำคัญของชีวิตด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ วางแผนความก้าวหน้าในการทำงาน เรียกว่าใช้ ChatGPT ให้กลายเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวไปเลยนั่นเอง
หลังจากที่ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT สามารถแนะนำการชอปปิงเป็นรายบุคคลได้ ส่งผลให้กลุ่ม GEN Z แห่มาใช้ AI เป็นสไตลลิสต์ส่วนตัว แนะนำการแฟชันการแต่งตัวมากขึ้น ต้องบอกว่าในแต่ละสัปดาห์นั้นมีการใช้งานฟังก์ชันค้นหาผ่าน ChatGPT มากกว่า 1,000 ล้านครั้ง ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ Gen Z ค้นหามากที่สุดคือ “วันนี้แต่งตัวอะไรดี” ซึ่งเป็นผลมาจากฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป ช่วยให้คำในการชอปปิงเป็นรายบุคคลพร้อมแนบลิงก์กดสั่งซื้อได้ทันที แม้ว่าตอนนี้ AI อาจจะยังไม่สามารถสร้างเสื้อผ้าแฟชันที่ใช้เดินบนรันเวย์ได้ แต่ OpenAI กำลังรับบทบาทใหม่เป็นสไตลิสต์ส่วนตัวผ่าน
แมททิว ปรินส์ (Matthew Prince) ซีอีโอของ Cloudflare เผยว่า AI กำลังทำลายโมเดลธุรกิจเว็บในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่าง Gemini และ ChatGPT ที่ส่งคำตอบที่ผู้ใช้งานต้องการโดยไม่ให้ผู้ใช้งานกลับไปยังเว็บต้นทาง ทำให้เจ้าของเว็บไซต์ไม่สามารถสร้างรายได้จากการทำเว็บได้เหมือนเดิม ซึ่งหากผู้พัฒนา AI ไม่จ่ายเงินหรือค่าตอบแทนให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ ระบบที่ผ่านมาจะพังลง ปรินส์ระบุว่า ในอดีต Google จะสามารถดึงคนกลับมาที่เว็บไซต์ได้ 1 คนต่อการโหลดหน้าเว็บ 2 หน้า แต่ปัจจุบันต้องอาศัยการโหลดหน้าเว็บทั้งหมด 6 หน้าเพื่อให้ผู้ใช้งาน
เควิน ซิสตรอม (Kevin Systrom) ผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram กล่าวว่า บริษัท AI พยายามมากเกินไปที่จะเร่งการมีส่วนร่วม (Engagement) โดยกระตุ้นให้มีการถามคำถามเพิ่มเติม (follow-up questions) แทนที่จะเน้นการให้คำตอบที่ตรงไปตรงมาและมีประโยชน์จริง ๆ
