Google ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Android XR โดย “XR” ย่อมาจาก “extended reality” ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีทั้ง AR, VR และ MR แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการ Android XR จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ visionOS ที่ขับเคลื่อนชุดหูฟัง Vision Pro ของ Apple โดย Google จะนำแอปต่างๆเช่น Maps, YouTube, Chrome
Pico XR เปิดตัว Pico 4 Ultra แว่นตา MR ตัวแรกที่จับตลาดเดียวกับ Vision Pro และ Meta Quest 3 ชูจุดขายรองรับ spatial video และ video passthrough ความละเอียดสูง Pico 4 Ultra มาในดีไซน์แบบเดียวกับ Pico 4 โดยเพิ่มกล้องความละเอียด 32 ล้านจำนวน
ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท Meta รายงานว่า บริษัทกำลังจะล้มเลิกแผนที่จะพัฒนาแว่นตาที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน เพื่อออกมาแข่งขันกับ Vision Pro ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว Vision Pro นั้น เคยมีข้อมูลหลุดจาก Meta เผยให้เห็นแผนการระยะเวลา 4 ปีสำหรับการพัฒนาแว่นตา VR และ mixed reality แผนดังกล่าวนั้นเป็น การพัฒนาภายในบริษัทในชื่อว่า La Jolla โดยจะเป็นแว่นตาที่วางตำแหน่งในฐานะคู่แข่งที่สูสีกับ Vision Pro ของ Apple
ใครที่รอซื้อแว่นตา Apple Vision Pro แต่ไม่อยากบินไกลไปซื้อถึงสหรัฐอเมริกา ล่าสุดทาง Apple ได้เพิ่มภาษาใหม่อีก 12 ภาษาให้ใช้งานได้ใน virtual keyboard บอกใบ้กลุ่มประเทศต่อไปที่เตรียมวางขาย Vision Pro ใครที่ใช้งาน Vision Pro จะรู้ว่าตอนนี้ตัวแป้นพิมพ์เสมือนจริงนั้นจะใช้งานได้แค่ภาษาอังกฤษและอีโมจิเท่านั้น เนื่องจากช่วงแรกนั้น Apple จะวางขายและทำตลาดในสหรัฐอเมริกาก่อน ล่าสุดมีคนค้นพบโค้ดใน VisionOS เบต้า พบว่า Apple เตรียมเพิ่มการสนับสนุนภาษาใหม่ ใส่เข้าไปในคีย์บอร์ดเพื่อให้สั่งงานได้ง่ายขึ้น โดยภาษาที่จะเพิ่มเข้ามาก็มีดังนี้
สิ่งที่ทำให้หลายคนลังเลว่าจะซื้อ Vision Pro ดีหรือเปล่า นั่นเป็นเพราะขนาดและน้ำหนักที่มากกว่าแว่นตาทั่วไปที่ขายในตลาดตอนนี้ ซึ่ง Apple เองก็มีดีไซน์ปลายทางที่วางไว้ในใจว่าต้องการมุ่งไปในทิศทางไหน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาถึง 4 รุ่นถึงจะได้สิ่งที่ต้องการ Vision Pro ต้องพัฒนาอีก 4 รุ่น Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานผ่านจดหมายข่าว Power On ว่าทีมงานพัฒนาบางส่วนของ Apple รู้สึกว่ายังมีงานอีกเยอะที่ต้องทำ ก่อนที่ Vision Pro จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ใส่ใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า
ถ้าจะพูดถึงความสมจริงที่แว่นตา Vision Pro สวมเข้าไปแล้วให้เราได้ คือ คุณอาจจะช็อคตาย หรือ ร้องไห้อยู่กับความทรงจำไม่รู้จบด้วยแว่นตานี้ APPLE VISION PRO อีกนานค่ะถึงจะมีการเปิดตัวแว่นตานี้ในประเทศไทย ถ้าเป็นไปได้ คาดว่าอย่างเร็วคือ สิ้นปี 2024 นี้ Apple เริ่มพัฒนาแว่นตา VR มาตั้งแต่ 25 ปีก่อน ช่วงปลายปี 90s ในสมัยที่ Steve Jobs ยังเป็นผู้บริหารอยู่ แว่นตาที่ใส่ชิปประมวลผล
แม้ Vision Pro จะมีราคาแพงถึงหลักแสน แต่ในช่วงพรีออเดอร์ 10 วันแรก ทาง Apple ฟันยอดขายไปถึง 200,000 เครื่องในช่วงพรีออเดอร์ 10 วันแรกจนทำให้สต็อกหมดเกลี้ยง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทาง Meta และแพลตฟอร์มอื่นๆนั้นจะพยายามผลักดันเทคโนโลยี virtual reality แต่ก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ยังไม่สามารถขยายตัวไปในวงกว้างได้ การที่ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Apple เข้ามาแจมด้วย Vision Pro ถือเป็นโอกาสขยายการใช้งานไปยังกลุ่มอื่นๆที่นอกเหนือจากการเล่นเกม Vision Pro
ใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อแว่นตา Vision Pro อาจจะต้องซื้อเคสเพิ่มด้วย เพราะค่าซ่อมนั้นแพงถึง 85,200 บาท ใครที่อยากซื้อ Vision Pro ตอนนี้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว โดยจะวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ แนะนำว่าซื้อแล้วอย่าลืมซื้อเคสป้องกันเพิ่มอีกเพราะค่าซ่อมแพงมาก จากข้อมูลในหน้า repair and service ของ Apple นั้นได้ลงรายละเอียดค่าซ่อมของ Vision Pro ซึ่งเรียกว่าแพงมากถึงแม้เราจะซื้อประกัน AppleCare+ เพิ่มแล้วก็ตาม เริ่มตั้งแต่กระจกด้านหน้า ถ้าเราเผลอทำแตก ค่าเปลี่ยนอยู่ที่ 799 ดอลลาร์หรือประมาณ
VividQ สตาร์ทอัพจากสหราชอณาจักรประสบความสำเร็จในการพัฒนาโฮโลแกรมสามมิติที่ชัดขนาด “retina resolution.” เรียกว่าเป็นอีกความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโฮโลแกรม ที่สามารถพัฒนาภาพความละเอียดสูงที่มองด้วยตาเปล่าเห็น ทำให้เราได้ภาพที่คมชัดสมจริงขึ้น โดยทาง VividQ วางแผนที่จะนำเทคโนโลยีนี้ใส่เข้าไปในแว่นตา VR ยุคต่อไป ทางวิศวกรของ VividQ ได้สร้างโฮโลแกรมด้วยคลื่นแสงเพื่อเรนเดอร์วัตถุในพื้นที่ 3 มิติ โดยใช้ซอฟต์แวร์จะเป็นตัวกำหนดเส้นทางของแสง เทคนิคนี้จำลองวิธีที่เราเห็นวัตถุเนื่องจากสะท้อนแสงเข้าตาของเรา VividQ ฉายภาพที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ผ่านฮาร์ดแวร์จอแสดงผล 4K ประสิทธิภาพสูง ทำให้วางวัตถุโฮโลแกรม 3 มิติไว้ที่ระยะห่างใดก็ได้ภายในช่วงโฟกัสของแต่ละบุคคล ผู้ใช้จึงสามารถเปลี่ยนโฟกัสระหว่างวัตถุต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เทคโนโลยีนี้จะส่งผลดีต่อแอปพลิเคชัน VR
หลังจากที่เปิดตัว Vision Pro ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่าน พร้อมประกาศวางขายต้นปี 2024 มาวันนี้ทาง Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานว่า Apple เตรียมวางขาย Vision Pro ภายในกุมภาพันธ์ปี 2024 เนื่องจากตัวเครื่องมีราคาสูงถึง 3,499 ดอลลาร์หรือประมาณ 122,340 บาท รวมถึงจำนวนเครื่องที่มีจำกัด เราจึงไม่เห็นงานเปิดตัวแยกออกมาเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญก็คือ การฝึกอบรมพนักงานใน Apple Store เพื่อให้คำแนะนำลูกค้าใหม่ในเรื่องการใช้งาน
