Meta เปิดตัว Aria Gen 2 แว่นเสมือนจริงรุ่นต่อไปในโครงการ Project Aria สำหรับใช้ในการวิจัย เพิ่มความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ Aria Gen 2 เริ่มพัฒนาหลังจากเปิดอุปกรณ์ Aria รุ่นแรกประมาณ 5 ปี มาพร้อมชิปที่ปรับแต่งเองของ Meta และชุดเซ็นเซอร์ที่อัปเกรดขึ้น เพื่อรองรับการทำงานของความสามารถใหม่ๆ ให้กับแพลตฟอร์ม หนึ่งในนั้นก็คือ เซ็นเซอร์ PPG ช่วยให้วัดอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใส่ รวมถึงมีไมโครโฟนแบบสัมผัสเพื่อแยกเสียงของผู้สวมใส่จากเสียงของผู้สังเกตการณ์ ทาง Meta
Facebook Live ถือเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนทั่วโลกใช้งาน ล่าสุดทาง Facebook ได้ปรับนโยบายใหม่ เก็บวิดีโอไลฟ์สด 30 วัน หลังจากนั้นจะลบอัตโนมัติ มีผลตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป นโยบายใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยวิดีโอที่เราทำการถ่ายทอดสดไปแล้ว จะสามารถเล่นซ้ำ ดาวน์โหลด หรือแชร์จากเพจหรือโปรไฟล์บน Facebook ได้เป็นเวลา 30 วัน หลังจากนั้นคลิปวิดีโอไลฟ์สดจะถูกลบออกจาก Facebook โดยอัตโนมัติ ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ระบบจะจัดเก็บวิดีโอเหล่านี้โดยไม่มีการลบ ทาง Meta ให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นไปตามนโยบายเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม และช่วยให้แน่ใจว่าได้มอบประสบการณ์การรับชมวิดีโอถ่ายทอดสดที่เป็นปัจจุบันที่สุดให้แก่ผู้ชมทุกคนบน Facebook ส่วนคลิปถ่ายทอดสดที่เผยแพร่ก่อนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นั้นจะถูกลบออกทั้งหมด และไม่สามารถเข้าชมวิดีโอดังกล่าวได้อีกต่อไป ซึ่งทาง Facebook จะเริ่มทยอยส่งการแจ้งเตือนให้เจ้าของวิดีโอถ่ายทอดสดดังกล่าวทราบตั้งแต่ช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป รวมถึงเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดวิดีโอถ่ายทอดสดของตนได้ก่อนที่จะถูกลบ เมื่อได้รับการแจ้งเตือนแล้ว ผู้ใช้จะมีเวลา 90 วันในการเลือกว่าจะทำอย่างไรกับเนื้อหาถ่ายทอดสดเก่าๆ
หลังจากที่ TikTok และแอปในเครือถูกแบนในสหรัฐอเมริกา ทาง Meta ได้ประกาศเปิดตัว CapCut เวอร์ชันของตัวเองในชื่อว่าแอป Edits ล่าสุดทางบริษัทได้เผยตัวอย่างฟีเจอร์ AI ที่เราจะได้ใช้งานกัน แอป Edits จะเปิดตัวให้ใช้งานจริงในเดือนหน้า โดยเปิดให้ใช้งานในบางประเทศก่อน ในส่วนของดีไซน์นั้นค่อนข้างคล้ายกับแอป CapCut มาก มาพร้อมคุณสมบัติการตัดต่อวิดีโอมากมายที่ Meta บอกว่าจะให้บริการฟรี ฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้ในช่วงแรกก็มี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Instagram ได้เปิดเผยหมายเหตุเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่จะมาถึง ฟีเจอร์แรกก็คือ Collaboration สามารถทำงานร่วมกันหลายคนได้ ซึ่งเราสามารถเชิญคนอื่นมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่กำลังทำอยู่ได้
ในโลกการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทุกวันนี้ การติดตามเทรนด์สังคมต่างๆ มีความสำคัญอย่างมากในการแข่งขันระหว่างแบรนด์ ขณะที่ความชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โซเชียลมีเดีย ครีเอเตอร์ เพื่อน และครอบครัวกำลังกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนค้นพบและตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆประเทศไทยเองก็เช่นกัน จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด eMarketer เอเชียแปซิฟิกยังคงครองฐานผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลกด้วยจำนวนผู้ใช้รวมกว่า 2.3 พันล้านคน นับว่าเติบโตรวดเร็วยิ่งกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลก ตอกย้ำจุดยืนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในฐานะฐานผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก Meta แชร์ 5 เทรนด์โซเชียลมีเดียสำคัญที่ธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญในปี พ.ศ. 2568 เพื่อให้ธุรกิจเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และยังคงความเป็นผู้นำในตลาดอย่างต่อเนื่อง 1. Generative AI ผู้บริโภคและธุรกิจได้สัมผัสถึงประโยชน์ของ Generative AI และมีการนำมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิในการทำงาน และนำเอไอมาเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างเนื้อหา แนวคิด และโซลูชันใหม่ ๆ ด้าน Meta เองได้พบว่ามีผู้ใช้งานเครื่องมือสร้างสรรค์โฆษณาด้วย Generative AI อย่างแพร่หลาย โดยผู้โฆษณามากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลกใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นประจำเพื่อพัฒนาผลงาน ส่งผลให้มีชิ้นงานโฆษณามากกว่า 15 ล้านโฆษณาด้วยเครื่องมือเอไอของ Meta ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 เพียงเดือนเดียว ทั้งนี้ 30% ของลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Meta ในเอเชียแปซิฟิกและประเทศไทยได้ใช้เครื่องมือเอไอของ Meta ในการสร้างพื้นหลัง (Background Generation) ของงาน
Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานว่า Meta วางแผนเปิดตัวแว่นตา AR พร้อมความสามารถของ AI ในปี 2027 Mark Gurman จาก Bloomberg เผยแผนต่อไปของ Meta ในด้านแว่นตาอัจฉริยะ แหล่งข่าวบอกว่า Meta กำลังพัฒนาโมเดลแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่อย่างน้อย 3 รุ่น พร้อมวางโรดแมปสำหรับการเปิดตัวแว่นตาเสมือนจริงรุ่นแรกเร็วสุดในปี 2027 นอกจากนั้นยังวางแผนนำ AI ไปใส่ในมาใช้ในอุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือและหูฟังด้วย ปัจจุบัน
Mark Zubkerberg ประกาศเลิกใช้ Fact-Checks เปลี่ยนมาใช้ Community Notes แทน อ้างช่วยให้สื่อสารในบางหัวข้อเปิดกว้างมากขึ้น Meta เปิดตัวโปรแกรม Fact-Checks ในปี 2559 โดยให้องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงอิสระ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข่าว พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้คนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเห็นทางออนไลน์ เพื่อช่วยรับมือกับข่าวปลอม เมื่อเวลาผ่านไป Meta พบว่า มีเนื้อหาจำนวนมากเกินไปที่ได้รับการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะเรื่องของการเมืองในสหรัฐ องค์กรอิสระเองก็มีอคติเช่นกัน ส่งผลให้ Fact-Checks กลายเป็นเครื่องมือในการเซ็นเซอร์เนื้อหาไปโดยปริยาย ดังนันทาง Meta จึงตัดสินใจเลิกใช้ Fact-Checks
Meta วางแผนที่จะเพิ่มจอแสดงผลให้กับแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ในปีหน้า เพื่อ “เร่ง” การเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะให้เร็วขึ้น เสริมผลิตภัณฑ์ที่มี AI ให้มากขึ้น Financial Times รายงานว่า Meta อาจเปิดตัวแว่นตา Meta Ray-Ban รุ่นอัปเดตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยการอัปเดตดังกล่าวจะมีการเพิ่มหน้าจอแสดงผลขนาดเล็กเพื่อแสดงการแจ้งเตือนและการตอบกลับจากผู้ช่วย AI ของ Meta แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ของ Meta ซึ่งเปิดตัวในปี 2021 ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร
Adam Mosseri ผู้บริหารระดับสูงของ Instagram เผยตัวอย่างการใช้งาน Movie Gen เครื่องมือตัดต่อวิดีโอที่ใช้ AI คาดเปิดให้ใช้งานในปีหน้า เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง Meta ได้เปิดตัว Movie Gen เครื่องมือตัดต่อวิดีโอที่ใช้ AI ที่ดูสมจริงซึ่งในตอนนั้น Meta บอกว่ายังคงเป็นโครงการวิจัยและไม่มีแผนในทันทีที่จะทำให้ฟีเจอร์เหล่านี้พร้อมใช้งานให้ผู้ใช้ได้ใช้งาน มาวันนี้ทาง Adam Mosseri ผู้บริหารระดับสูงของ Instagram โพสต์วิดีโอสั้นๆ แสดงให้เห็นการตัดต่อด้วย AI แบบไร้รอยต่อที่ในที่สุดแล้วจะเกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่าบริษัทจะนำฟีเจอร์นี้มาสู่
Meta ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Live AI ให้กับผู่้ใช้แว่นตา Meta Ray-Ban ที่สมัครโปรแกรม Early Access โดยจะสามารถใช้งาน 2 ฟีเจอร์ใหม่คือ Live Translation และการค้นหาเพลงด้วย Shazam การอัปเกรดความสามารถของ Meta AI จะสามารถเข้าถึงวิดีโอสตรีมต่อเนื่องจากแว่นของคุณได้ ทำให้สามารถสนทนากับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงให้คำแนะนำตามสิ่งที่เหนและช่วยทำภารกิจต่างๆ มากมาย เช่น การเตรียมอาหาร การทำสวน หรือการสำรวจละแวกบ้านใหม่ๆ” ในส่วนของ Live
Meta เตรียมลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ในโครงการใหม่ วางสายเคเบิลใต้น้ำยาวกว่า 40,000 กิโลเมตร เพื่อขยายขีดความสามารถในการเชื่อมต่อในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น แหล่งข่าวเผยว่า เส้นทางสายเคเบิลที่วางแผนไว้ในปัจจุบันจะทอดยาวจากชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ไปจนถึงอินเดีย โดยผ่านแอฟริกาใต้ จากนั้นจึงทอดยาวจากอินเดียไปยังชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ โดยผ่านออสเตรเลีย โดยจะมีลักษณะเป็นรูปตัว “W” ล้อมรอบโลก จากแผนภาพด้านบนเราจะเห็น โครงการสายเคเบิล “W” จะทำให้ Meta สามารถเชื่อมต่อได้แทบทุกทวีป รวมถึงมีการต่อยอดจากโครงการสายเคเบิล “2Africa” ในอดีตของ Meta ซึ่งมุ่งเน้นที่ทวีปแอฟริกาโดยเฉพาะ ทั้งสองโครงการนี้จะทำให้
![[บทความ] Buy Now, Pay Later ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง ใช้ไม่ถูกอาจกลายเป็นวิกฤตการเงินได้](https://ceei.co/wp-content/uploads/2025/09/buy-now-pay-later-1024x640.png)
