ครั้งต่อไปที่เราส่ง DM ถึงครีเอเตอร์บน Instagram เราอาจได้รับคำตอบจาก AI แทน เพราะ Meta เปิดตัว AI Studio ชุดเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาบน Instagram สร้างตัวตนของ AI ที่สามารถตอบคำถามและสนทนากับผู้ติดตามและแฟนๆ ในนามของพวกเขาได้ Meta เปิดตัว AI Studio ครั้งแรกในงาน Connect เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มทดสอบ AI ที่สร้างโดยครีเอเตอร์กับผู้ใช้ Instagram ที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งเมื่อไม่นานนี้
Meta ขยายการใช้งาน Meta AI เพิ่มอีก 7 ประเทศพร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ‘Imagine me’ เอา AI มาช่วยสร้างอวาตาร์ การขยายการใช้งานเพิ่มอีก 7 ประเทศ ทำให้ตอนนี้ Meta AI สามารถใช้งานได้ใน 22 ประเทศทั่วโลกผ่าน WhatsApp, Instagram, Messenger และ Facebook แถมยังอัปเกรดให้รองรับภาษาใหม่ๆ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน
Meta ประกาศเปิดให้ใช้งาน Meta AI หรือ Gen AI ที่คอยสนับสนุนการทำงานของผู้ช่วยเสมือนจริงใน Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp หลังจากที่ปีก่อนได้เปิดใช้งาน Llama 2 ที่เป็น (LLM) เฉพาะที่สหรัฐอเมริกา รวมถึงเมื่อช่วงต้นปีนี้ทาง Meta ได้อัปเกรด Llama 3 และขยายการใช้งานอีกหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย, แคนาดา, กาน่า, จาไมกา, Malawi, นิวซีแลนด์, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, สิงคโปร์,
หลังจากมีข่าวว่า TikTok ซุ่มพัฒนาแอปแชร์รูปภาพเพื่อแข่งกับ Instagram ล่าสุดมีการปล่อยแอปให้ใช้งานแล้วในหลายประเทศ โดยใช้ชื่อว่า Whee คนแรกที่ค้นพบแอปนี้ก็คือ Artem Russakovskii ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดใน Google Play Store ของฝั่งแอนดรอยด์ในหลายประเทศ คำบรรยายแและภาพ screenshots นั้นโชว์ให้เห็นว่า แอป Whee นั้นจะค่อนข้างคล้ายกับ Instagram แต่จะมีการปรับการทำให้งานให้เข้ากับแต่ละคนมากขึ้น ซึ่งการแชร์รูปภาพนั้นจะมีเฉพาะเพื่อนเราเท่านั้นที่สามารถดูได้ ต่างจาก Instagram ที่บัญชีสาธารณะจะดูได้ทุกคน ในภาพเราจะเห็นข้อความอย่าง แชร์กับเพื่อนเท่านั้น (Share
Instagram เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เปิดให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเพื่อนสนิทบน Instagram Live ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ไลฟ์ร่วมกับคนอื่นๆ ได้ถึงสามคนพร้อมกันในการไลฟ์สดแบบส่วนตัว ส่วนคนที่เข้ามาดูได้จะต้องเป็น Close Friends เท่านั้น ตอนนี้การไลฟ์สดนั้นได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งสะท้อนจากการใช้งานผ่าน D.M. video chats, TikTok Live หรือ Omegle (ก่อนจะปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว) รวมถึง Houseparty ที่เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น การใช้งานแพลตฟอร์มเหล่านี้ที่เพิ่มขึ้นแสดงถึงพฤติกรรมการใช้งานที่ ต้องการเชื่อมต่อและรักษาความสัมพันธ์กับชุมชนได้ แม้ว่าจะอยู่ที่บ้านก็ตาม รวมถึงเทรนด์ของโซเชียลมีเดียที่ถูกใช้งานในวงกว้าง ซึ่ง Instagram
การส่งข้อความเชิงธุรกิจ (Business Messaging) ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นช่องทางการสื่อสารที่เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับผู้บริโภคทั่วโลก จากการที่มีผู้คนจำนวนกว่าหนึ่งพันล้านคนติดต่อกับธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มการส่งข้อความในแต่ละสัปดาห์ โดยประเทศไทยถือเป็นผู้นำเทรนด์ด้านการส่งข้อความเชิงธุรกิจอันดับต้น ๆ ของโลก จากข้อมูลเผยว่ามีผู้บริโภคชาวไทยจำนวน 9 ใน 10 คน ติดต่อกับธุรกิจผ่านแอปพลิเคชันแชทต่าง ๆ ในระหว่างขั้นตอนการซื้อสินค้า ในขณะเดียวกัน ครึ่งหนึ่งของนักช้อปชาวไทยยังได้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ล่าสุด Meta เปิดตัวโซลูชันการส่งข้อความทางธุรกิจใหม่ที่ออกแบบขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ ภายในงาน Business Messaging Summit ในปีนี้ ประเทศไทยเป็นผู้นำเทรนด์การส่งข้อความเชิงธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก และธุรกิจไทยยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เริ่มเปิดรับโซลูชันด้านการแชทเพื่อธุรกิจเป็นกลุ่มแรก ๆ ของโลก โดย คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebookประเทศไทย จาก Meta กล่าวว่า “ธุรกิจไทยเป็นผู้ริเริ่มในการนำเทคโนโลยีด้านการส่งข้อความเชิงธุรกิจมาปรับใช้ โดย 91% ของธุรกิจในประเทศไทยมีการสำรวจพบว่า พวกเขามีความพึงพอใจกับการใช้งาน Messenger เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้า และธุรกิจกว่า76% กล่าวว่าพวกเขาสามารถหา lead หรือกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพได้จากการวางโฆษณาบน Facebook ที่คลิกไปสู่การสนทนาบน Messenger ซึ่งตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของ Messenger ที่มีต่อการเติบโตของธุรกิจ และการสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าในประเทศไทย ในวันนี้ เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวชุดเครื่องมือใหม่ที่เป็นโซลูชันด้านการส่งข้อความเชิงธุรกิจ
ข่าวร้ายสำหรับคนที่ชอบเล่น Instagram เพราะในอนาคตอาจจะมีโฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ เพราะตอนนี้เขากำลังทดสอบโฆษณาแบบใหม่ที่เลื่อนผ่านไม่ได้ โฆษณาแบบใหม่นี้มีชื่อว่า “ad break” ซึ่งตอนนี้เริ่มทดสอบในผู้ใช้กลุ่มเล็กๆอยู่ โดยเราไม่สามารถเลื่อนผ่านหรือกดข้ามได้จนกว่าจะดูโฆษณาจนจบ มีผู้ใช้ Reddit และ X, เริ่มโชว์ภาพหน้าจอให้เห็นบนออนไลน์ โดย “ad break” นั้นจะมีความยาวไม่กี่วินาที ซึ่งในอนาคตยังไม่รู้ว่าทาง Meta จะเพิ่มความยาวโฆษณาให้ยาวขึ้นหรือไม่ หรือตัดสินใจนำมาใช้งานอย่างเป็นทางการหรือไม่ แม้ว่าโฆษณาวิดีโอแบบกดข้ามไม่ได้จะพบเห็นได้ทั่วไปบนแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น YouTube แต่ก็เป็นรูปแบบใหม่และเชิงรุกมากขึ้นสำหรับ Instagram นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าบริษัทกำลังทดลองใช้โฆษณาในฟีดหลัก แทนที่จะเป็นใน Reels หรือ Stories
Instagram เตรียมเพิ่มเมนูใหม่ “Early Access” เปิดให้ผู้ใช้สามารถทดสอบฟีเจอร์ใหม่ได้ก่อนใคร Alessandro Paluzzi นักวิจัยแอปได้แขร์ภาพหน้าจอ เพื่อแสดงให้เห็นว่า Instagram กำลังพัฒนาตัวเลือกการตั้งค่าใหม่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ ในรูปแบบของการลงชื่อสมัคร beta test ซึ่งอาจจะเป็นอีกส่วนหนึ่งของ “Meta Verified” เฉพาะคนที่จ่ายรายเดือนถึงจะเข้าร่วมได้ Meta Verified คือ บริการรายเดือนที่เราจ่ายเงิน 14.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 548 บาท แล้วจะได้เครื่องหมายฟ้ายืนยันตัวตนมา ซึ่งจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆให้ใช้งานมากขึ้นกว่าบัญชีที่ใช้บริการฟรี หนึ่งในฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ “Exclusive
เรียกว่าได้แรงบันดาลใจจาก Snapchat อีกแล้ว เมื่อ Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ “Peek” เปิดให้ผู้ใช้แชร์รูปที่ไม่ผ่านการแต่ง จากนั้นจะหายทันทีเมื่อมีคนเปิดดู ฟีเจอร์นี้ถูกค้นพบโดย Alessandro Paluzzi นักวิจัยแอปซึ่งตอนนี้อยู่ในต้นของการทดสอบ ยังไม่เปิดใช้งานในวงกว้าง สิ่งที่แตกต่างจาก Instagram Stories คือเมื่อลงแล้วจะอยู่ 24 ชั่วโมงแล้วจะหายไป แต่ Peek นั้นจะหายไปเมื่อมีคนแรกมาเปิดดู จากข้อมูลภาพหน้าจอที่แชร์โดย Paluzzi ผู้ใช้อาจสามารถถ่ายภาพได้ในช่วงเวลานั้นโดยใช้กล้องเท่านั้น และไม่สามารถอัปโหลดภาพจากแกลเลอรี่ได้ รวมถึงไม่สามารถใส่ฟิลเตอร์หรือแต่งรูปได้ Peek น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยแชร์เหตุการณ์
Instagram ประกาศปรับอัลกอริทึมใหม่ เน้นแสดงภาพ Original มากกว่าภาพที่ถูกรีโพสต์ เพื่อให้ผลงานของครีเดอเตอร์ตัวจริงที่ผู้ติดตามไม่มากถูกเห็นมากขึ้น ทาง Meta บริษัทแม่ของ Instagram ประกาศปรับปรุงระบบการจัดอันดับใหม่เพื่อให้บัญชีรายเล็กๆสามารถถูกมองเห็นได้มากขึ้น “ที่ผ่านมานั้น ทาง Instagram จะจัดอันดับเนื้อหาจากครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากและผู้รวบรวมเนื้อหาที่โพสต์ซ้ำจึงได้รับคำแนะนำมากกว่าครีเอเตอร์รายเล็กๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพื่อให้ครีเอเตอร์ทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันมากขึ้นในการเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ” อักอริทึมใหม่นี้จะให้ความสำคัญกับคอนเทนท์ที่เป็น original มากว่าเนื้อหาที่ถูกรวบรวมหรือนำมาโพสต์ใหม่ นั่นหมายความว่าบัญชีที่ใช้เนื้อหาที่โหลดมาจากของคนอื่น ไม่ว่าจะเป้นรูปภาพ วิดีโอ มีม ไม่ว่าจะมีเครดิตหรือไม่ก็ตามจะถูกแนะนำให้เห็นน้อยลง โดยจะเน้นไปที่บัญชีที่ไม่ได้สร้างเนื้อหาเอง. การปรับในครั้งนี้ยังส่งผลต่อคำแนะนำ บัญชี และโพสต์ที่ Instagram ที่โชว์บนหน้าฟีดผู้ใช้และหน้าสำรวจ
