สมาร์ตโฟน BlackBerry กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังวัยรุ่น GEN Z ในสหรัฐ หันมาใช้อุปกรณ์รุ่นเก่า จับกระแสวินเทจพร้อมทำ digital detoxes ไปในตัว ก่อนที่ iPhone จะครองตลาดนั้น BlackBerry ถือเป็นโทรศัพท์ที่ “ฮิต”มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งในสหรัฐนั้นครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ส่วนในตลาดโลกก็มีส่วนแบ่งถึง 20% แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทรนด์ของตลาดก็เปลี่ยนไปสู่ยุคสมาร์ตโฟน เน้นการจิ้มจอแทนการใช้แป้นพิมพ์ ในที่สุด BlackBerry ก็ยุติการสนับสนุนโทรศัพท์รุ่นคลาสสิกในปี 2022
YouTuber ช่อง Asian Boss ได้สัมภาษณ์ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน iPhone และ Samsung รุ่น Gen Z จากประเทศเกาหลีใต้ ได้ข้อมูลที่น่าสนใจออกมาพอสมควร โดยรวมแล้ว Gen Z มองว่า iPhone ดูดีกว่า Samsung ที่ดูเป็นสินค้าคนแก่มากกว่า อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าในเกาหลีใต้จะมีสมาร์ตโฟนแบรนด์หลัก ๆ เพียง 2 แบรนด์ ได้แก่ iPhone และ Samsung
เรียกว่าเป็นการทำตลาดเอาใจคน Gen Z อย่างแท้จริง ด้วยการนำเทรนด์บน TikTok มาสร้างเป็นเครื่องดื่มรสชาติใหม่ในชื่อว่า Sprite + Tea หลังจากที่เกิดกระแสบน Tiktok ที่วัยรุ่นนำชาไปใส่ใน Sprite จนเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ทาง Coca-Cola Co. ประกาศเปิดตัวเครื่องดื่มรสชาติใหม่ Sprite + Tea ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบรสชาติปกติและแบบไม่มีน้ำตาล ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา วางขายในเวลาที่จำกัดจนถึงเดือนตุลาคมนี้ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เครื่องดื่มรสชาตินี้มีการนำเสนอไอเดียตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อนโดยนักศึกษาฝึกงาน ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาที่เปิดให้เด็กฝึกงานมีส่วนร่วมคิดค้นนวัตกรรมและไอเดียการตลาดที่แตกต่างให้แบรนด์ต่างๆ ของ
ช่วงว่างระหว่างวัยอาจทำให้คนแต่ละเจนมีมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน อย่างเรื่องใกล้ตัวโดยเฉพาะ ‘อีโมจิ’ ซึ่งพบว่าคน Gen Z มองว่า ‘อีโมจิหน้ายิ้ม 🙂’ ไม่ได้บ่งบอกถึงความสุขแต่เป็นในแบบเชิงลบเสียมากกว่า… โดยคนที่เกิดระหว่างปี 1997-20 หรือ Gen Z มองอีโมจิหน้ายิ้มนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เป็นในความหมายเชิงประชดประชัน เช่นเดียวกับอีโมจินิ้วโป้ง 👍 ที่คนยุคก่อนอาจใช้เพื่อแสดงการยอมรับ หรือ “ทำได้ดีมาก” แต่กับ Gen Z กลับไม่ได้มองอย่างนั้น ความหมายของอีโมจิหน้ายิ้มไม่ใช่เรื่องใหม่นัก เพราะประเด็นนี้ถูกนำมาเสนอโดยสื่ออยู่บ่อยครั้ง
หลังจากที่ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT สามารถแนะนำการชอปปิงเป็นรายบุคคลได้ ส่งผลให้กลุ่ม GEN Z แห่มาใช้ AI เป็นสไตลลิสต์ส่วนตัว แนะนำการแฟชันการแต่งตัวมากขึ้น ต้องบอกว่าในแต่ละสัปดาห์นั้นมีการใช้งานฟังก์ชันค้นหาผ่าน ChatGPT มากกว่า 1,000 ล้านครั้ง ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ Gen Z ค้นหามากที่สุดคือ “วันนี้แต่งตัวอะไรดี” ซึ่งเป็นผลมาจากฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป ช่วยให้คำในการชอปปิงเป็นรายบุคคลพร้อมแนบลิงก์กดสั่งซื้อได้ทันที แม้ว่าตอนนี้ AI อาจจะยังไม่สามารถสร้างเสื้อผ้าแฟชันที่ใช้เดินบนรันเวย์ได้ แต่ OpenAI กำลังรับบทบาทใหม่เป็นสไตลิสต์ส่วนตัวผ่าน
ผลสำรวจใหม่พบว่ากลุ่มคนรุ่น Millennial และ Gen Z หรือรุ่นที่เพิ่งเข้าสงคมการทำงานได้ไม่นานบางคนก็พร้อมที่จปฏิเสธเงินเดือนสูง ๆ หรือทำงานไกลบ้าน หากตนได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาหรือแมวน้อยลง
เริ่มขึ้นแล้วกับ CES 2025 งานเทคใหญ่งานแรกของปีที่เผยเทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตาในปีนี้ ทาง Brian Comiskey นักอนาคตศาสตร์จาก Consumer Technology Association (CTA) ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มใหม่ๆ ที่จะกำหนดอนาคตของเทคโนโลยี Brian Comiskey ได้ขึ้นพูด Keynote ในงาน Research Summit เขาได้กล่าวถึงหัวข้อต่างๆ ที่ส่งผลต่อเทคโนโลยี ตั้งแต่อิทธิพลของคนแต่ละรุ่นในการนำเทคโนโลยีมาใช้ไปจนถึงการบรรจบกันของ AI กับความยั่งยืน เข้าใจเทคโนโลยีผ่านมุมมองของคนแต่ละรุ่น Brian Comisky เน้นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่น
noplace แอปโซเชียลน้องใหม่ขวัญใจ Gen Z ขึ้นแท่นยอดดาวน์โหลดสูงสุดของ Apple Store ในสัปดาห์นี้ ทั้งๆที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ลองไปดูว่าแอปนี้น่าสนใจอย่างไรบ้าง การเปิดตัวแอป noplace นั้นจะคล้ายกับหลายๆ แอปที่จะต้องได้รับการเชิญถึงจะใช้งานได้ เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นและ Gen Z หรือใครก็ตามที่ต้องการเชื่อมต่อกับเพื่อนหรือคนที่มีความสนใจร่วมกัน ดีไซน์ของ noplace เหมือนกับ Myspace ยุคใหม่ที่มีโปรไฟล์สีสันสดใสและปรับแต่งได้ เปิดให้ผู้ใช้สามารถแชร์ได้ทุกสิ่ง ตั้งแต่สถานะความสัมพันธ์ไปจนถึงสิ่งที่เป็น สิ่งที่ฟังหรือดูอยู่ หนังสือหรือกิจกรรมที่ทำ แต่สิ่งที่ทำให้ noplace กลายเป็นไวรัลก่อนเปิดตัวก็คือ ฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถแสดงตัวตนของตัวเองได้ผ่านการปรับแต่งสีหน้าโปรไฟล์ของตัวเอง แนวคิดของ noplace
