จากรายงานของเว็บไซต์ The Information ทาง ByteDance บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอชื่อดัง TikTok กำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ Mixed Reality ของตนเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันในตลาดกับบริษัทคู่แข่งอย่าง Meta สำหรับแว่นตาตัวนี้จะถูกพัฒนาขึ้นโดย Pico ซึ่งเป็นบริษัท VR ในเครือของ ByteDance นั่นเอง ซึ่งในอดีต Pico 4 เคยพยายามทำตลาดแข่งขันกับทาง Meta Quest มาแล้ว โดยแทนที่จะเป็นอุปกรณ์ headset ขนาดใหญ่
ใครที่ใช้ CapCut ต้องรู้เรื่องนี้ เมื่อทางบริษัทมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใช้งานใหม่ ทุกคลิปที่สร้างหรืออัปโหลดบนเซิร์ฟเวอร์ ทางบริษัทสามารถเอาไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ทั่วโลกโดยไม่ผิดลิขสิทธิ์ เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้จำนวนมากโดยเฉพาะเหล่าครีเอเตอร์ เพราะ CapCut ถือเป็นแอปตัดต่อยอดนิยมที่พัฒนาโดย ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ทางบริษัทได้อัปเดตเงื่อนไขการให้บริการใหม่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะกดข้ามไม่ค่อยได้อ่านกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ก็มีคนตาดีเห็นว่าเงื่อนไขบางอย่างนั้นทำให้เกิดความกังวลเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคนที่ใช้สร้างคอนเทนท์ลงบนโซเชียลมีเดีย เรื่องแรกคือ CapCut สามารถใช้ไฟล์วิดีโอที่ผู้ใช้อัปโหลดได้อย่างอิสระ รวมถึงการใช้งานเชิงพาณิชย์ด้วยซึ่งเงื่อนไขนี้มีมาตั้งแต่ปี 2023 แล้วแต่ในเงื่อนไขใหม่นั้นจะเพิ่มข้อกำหนดว่า “เนื้อหาใดๆ ที่ถูกสร้างหรืออัพโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ถือเป็นเนื้อหาที่ไม่เป็นความลับ โดยการใช้บริการนั้น ผู้ใช้จะให้สิทธิ์การใช้งานแบบทั่วโลก ปลอดค่าลิขสิทธิ์ สามารถถ่ายโอนสิทธิ์ และอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ต่อให้กับบริษัทและพันธมิตรในการใช้เนื้อหานั้นได้
โดนัลด์ ทรัมป์เตรียมขยายเวลาเป็นรอบที่ 3 ยืดเส้นตายให้ TikTok อีก 90 วัน เพื่อแยกตัวจากบริษัทแม่ในจีน ไม่อย่างนั้นจะโดนแบนจากสหรัฐฯ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันเรื่องนี้ในแถลงการณ์ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยรัฐบาลทรัมป์จะใช้เวลาอีก 90 วันข้างหน้าทำงานให้ข้อตกลงเสร็จสิ้น เพื่อให้ชาวอเมริกันใช้งาน TikTok ต่อไปโดยที่ข้อมูลของพวกเขาจะปลอดภัย ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ยืดเวลาครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มกราคมนั้น ในเชิงทฤษฎีแล้วเป็นการคุ้มครองทางกฎหมายกับผู้ให้บริการ TikTok ในสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมาย Protecting Americans from
กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อแอป TikTok ถูกแบนในสหรัฐอเมริกา กระทบผู้ใช้กว่า 170 ล้านคน ลองไปไล่เรียงกันดูว่าเหตุการณ์นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมสหรัฐถึงจ้องจะแบน TikTok ให้เข้าใจในที่เดียว 2012 : Zhang Yimin ก่อตั้งบริษัท ByteDance ในประเทศจีน มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมตัวแรกคือ Toutiao ซึ่งเป็นเครื่องมือรวบรวมข่าวสารเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ใช้ชาวจีน 2014 : Alex Zhu. เปิดตัว Musical.ly ซึ่งเป็นแอปสำหรับโพสต์มิวสิควิดีโอลิปซิงค์สั้นๆ ในจีน หลังเปิดตัวได้ 1
ตอนนี้แอป TikTok ได้ปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาแล้วตามคำสั่งศาล ตัวแอปถูกลบออกจาก App Store ของทั้ง Apple และ Google ไม่สามารถใช้งานได้บนเว็บ รวมถึงผู้ใช้ที่เปิดแอปจะถูกบล็อกไม่ให้ดูวิดีโอ การปิดตัวลงในครั้งนี้ส่งผลกับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกากว่า 170 ล้านคนใช้งานต้องปิดตัวลง ซึ่งเป็นไปตามการตัดสินของศาลสหรัฐตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลไบเดน ซึ่งตอนนี้ได้โอนการบังคับใช้กฎหมายให้กับรัฐบาลของทรัมป์ ทาง Tiktok ได้มีการส่งบันทึกภายในให้กับพนักงานระบุว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าจะทำงานร่วมกับเราเพื่อหาทางออกในการนำ TikTok กลับมาเมื่อเขารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และ ทีมงานกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อนำแอปของเรากลับคืนสู่สหรัฐอเมริกาให้เร็วที่สุด” ในแอป TikTok ก็เริ่มแสดงการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วง
มีรายงานว่า Apple กำลังเจรจากับ ByteDance และ Tencent ของจีน เพื่อนำ AI มาใช้กับ iPhone ที่ขายในจีน Apple เริ่มzo;d ChatGPT ของ OpenAI เข้ากับอุปกรณ์ทั่วโลกเมื่อต้นเดือนนี้ด้วยการเปิดตัว iOS 18.2, iPadOS 18.2 และ macOS Sequoia 15.2 แต่ยังไม่สามารถใช้งานในจีนได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ เนื่องจากกฎหมายจีนกำหนดให้ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อนที่บริษัทต่างๆ จะสามารถเปิดตัวบริการ
ByteDance เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อว่า Jimeng AI เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอสั้นด้วยการเขียน prompt ได้ อีกในไม่ช้า TikTok จะมีเครื่องมือ AI สำหรับเปลี่ยนข้อความเป็นวิดีโอ เมื่อบริษัทแม่ ByteDance เปิดตัวแอปใหม่ชื่อว่า “Jimeng AI” สำหรับใช้งานในประเทศจีน จากหน้าเว็บของ Jimeng AI จะเปิดให้เราสร้างวิดีโอสั้นๆได้จากข้อความที่เราพิมพ์เข้าไป (ซึ่งบริการส่วนใหญ่จะสร้างได้ไม่เกิน 5 วินาที) เราจะเห็น AI สร้างตัวละคร สิ่งของ รวมถึงฉากหลังให้ทั้งหมด นอกจากนั้นเรายังสร้างภาพนิ่งจากข้อความได้ด้วย
รัฐสภาสหรัฐผ่านกฎหมายใหม่โดยได้คะแนนโหวตเห็นชอบ 352 ต่อ 65 เสียง เพื่อบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกแบนไมให้ใช้งานในสหรัฐ ขั้นตอนต่อไปคือการส่งเรื่องต่อให้วุฒิสภา หากผ่านความเห็นชอบก็จะส่งให้ประธานาธิบดี Joe Biden เซ็นรับรองเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เนื้อหาของกฎหมายนี้ จะบังคับให้ ByteDance ขายกิจการของ TikTok ภายในเวลา 6 เดือน หากไม่สำเร็จก็จะถูกห้ามไม่ให้โฮสต์แอป ByteDance บน App Store และบริการเว็บโฮสติ้ง พูดให้เข้าใจง่ายๆคือ
