Tesla ถูกหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยของรัฐบาลกลางสอบสวน หลังส่งรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Autopilot ล่าช้า
รถยนต์ Tesla หลายรุ่นติดตั้งระบบ Autopilot ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ขับขี่บนทางหลวง รวมถึงฟีเจอร์ “Full Self-Driving” ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถช่วยคนขับในการควบคุมและนำทางรถได้ทั้งบนถนนในเมืองและบนทางหลวง แต่ที่ผ่านมานั้นก็มีข่าวว่ารถยนต์ของ Tesla นั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะระบบช่วยขับนั้นทำงานผิดพลาด
ยกตัวอย่าง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Tesla ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากเหตุอุบัติเหตุร้ายแรงในปี 2019 ที่รถ Model S ที่ใช้ระบบ Autopilot ชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ ส่งผลให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 ราย ศาลมีคำสั่งให้บริษัทจ่ายค่าเสียหาย 329 ล้านเหรียญ โดย Tesla วางแผนยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว
นั่นทำให้สำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ต้องเร่งสอบ Tesla เป็นการเร่งด่วนถึงความปลอดภัยของระบบถยนต์ไร้คนขับ หลังพบว่า Tesla ส่งรายงานอุบัติเหตุล่าช้าเป็นเดือนหรือมากกว่านั้น ทั้งที่กฎกำหนดให้ต้องรายงานภายใน 1–5 วันหลังจากที่ Tesla ทราบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่ง เขาเน้นย้ำอยู่เสมอว่า Tesla ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่จะเป็นหัวใจสำคัญต่อการเติบโตและผลกำไรของสหรัฐอเมริกาในอนาคต ส่งผลให้หลายฝ่ายกังลว่า ยุติการสอบสวนด้านความปลอดภัยที่มีอยู่กับ Tesla
เพราะอีลอน มัสก์ นั้นทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ให้กับการเลือกตั้งของทรัมป์ และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญให้กับทรัมป์ หลังจากเข้ารับตำแหน่งอีกครั้ง
การสอบสวนของ NHTSA ในครั้งนี้ถือเป็นการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของรถยนต์ไร้คนขับ พร้อมตรวจสอบรายงานและข้อมูลการแก้ปัญหาที่ส่งเข้ามาว่าว่าเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมรถยนต์ไร้คนขับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา cnn