อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะรถตกน้ำ ไม่ว่าจะเป็นคลอง บึง หรือแม่น้ำ การรู้วิธีที่จะออกจากสถานการณ์อันตรายแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ
อันดับแรก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตั้งสติ อย่าตกใจ พยายามหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที สิ่งที่เราต้องทราบคือ รถจะไม่จมในทันทีหลังจากตกน้ำ แต่จะค่อย ๆ จมภายในระยะเวลา 1-2 นาที ซึ่งนับเป็นนาทีทองที่สุดในการเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์รถตกน้ำ ก่อนที่ระดับน้ำจะขึ้นมาอยู่เหนือประตูจนทำให้เราไม่สามารถเปิดรถออกไปได้เนื่องจากแรงดันน้ำที่เข้ามา
เมื่อตั้งสติได้แล้ว ให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองและของผู้โดยสารคนอื่น แล้วรีบเปิดกระจกออกทันที ถ้าเป็นกระจกแบบหมุนมือควรหมุนให้สุด หากเป็นกระจกไฟฟ้าให้รีบกดลงก่อนที่ระบบไฟฟ้าจะเสียหายจากการที่น้ำเข้ามาในตัวรถ เพราะเมื่อรถจมเกินระดับกระจก ระบบไฟฟ้าจะใช้การไม่ได้อีกต่อไป
หากไม่สามารถเปิดกระจกได้แล้ว ให้พยายามใช้ของแข็งทุบกระจก เช่น ค้อนทุบกระจกหรือของแข็งอื่น ๆ เช่น เหล็กของเข็มขัด หรือที่พักศีรษะของเบาะรถ ซึ่งสามารถถอดออกมาใช้ได้ โดยจุดที่ควรทุบคือมุมกระจกด้านข้าง เมื่อกระจกแตกแล้วให้รีบปีนออกไปทางนั้นทันที ไม่ควรพยายามเปิดประตู เพราะแรงดันน้ำจากภายนอกจะมากเกินกว่าจะดันออกไปได้แล้ว
โดยทั่วไปแล้ว กระจกของรถจะเป็น Tempered Glass ซึ่งแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา 3-5 เท่า แต่เวลาแตกจะแตกเป็นละเอียด เป็นเกล็ดเล็ก ๆ ที่ไม่คม ซึ่งข้อมูลจากบทความ Vehicle Escape ระบุว่าการทุบกระจกควรโฟกัสแรงไปที่จุดเล็ก ๆ บริเวณด้านล่าง-ใกล้ขอบ และใกล้กับตัวรถ เพื่อให้แตกง่ายขึ้น ตามคลิปด้านล่างนี้
ในกรณีที่รถจมจนกระจกเปิดไม่ได้และแรงดันน้ำมากเกินไป ให้จับจังหวะ รอจนระดับน้ำภายในรถสูงขึ้นจนเกือบเท่ากับด้านนอก จากนั้นค่อยพยายามเปิดประตูออก แรงดันที่สมดุลกันจะทำให้เราสามารถผลักประตูออกไปได้ง่ายขึ้น ขณะออกจากรถควรหายใจลึก ๆ แล้วว่ายน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำตามฟองอากาศหรือแสงด้านบน เพื่อไม่ให้หลงทิศทาง
สรุปสเต็ปที่ควรเตรียมพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุรถจมน้ำคือ อันดับแรกตั้งสติ ปลดเข็มขัดนิรภัย สองพยายามหาทางออกให้ได้ โดยการลดกระจกหรือทุบกระจกให้แตก สามกรณีสุดท้ายหากแรงดันน้ำมากแล้ว ให้หาจังหวะที่แรงดันภายในและภายนอกใกล้เคียงกัน พยายามเปิดประตูออกมา
ปลดเข็มขัด > เปิดหน้าต่าง > ออกจากรถทันที
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ควรมีติดรถเอาไว้คือค้อนหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายกระจกโดยเฉพาะ เพราะหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทำให้เราสามารถทำลายกระจกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ดีและมีประโยชน์ แต่ไม่ใช่ของวิเศษ มันช่วยเพิ่มโอกาสรอดเมื่อต้องออกจากรถที่จมน้ำหรือไฟลุก แต่ต้องเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม วางไว้ถูกที่ และรู้วิธีใช้ เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ใช้เครื่องมือแบบพุชจะทำให้กระจกแตกง่ายกว่า
อ้างอิงข้อมูลจาก Forbes ระบุว่า การใช้เครื่องมือแบบพุชหรือมีสปริงจะเพิ่มโอกาสทำให้กระจกแตกได้สำเร็จมากกว่าเนื่องจากในสภาพที่มีแรงดันหรือมีน้ำจะใช้งานง่ายกว่าค้อน
สิ่งสำคัญของอุปกรณ์คือ ไม่ควรมีความซับซ้อน เช่น ต้องชาร์จไฟหรือต้องใช้ถ่าน เพราะหากมีปัญหาขึ้นมาจะทำให้โอกาสรอดชีวิตลดลงไปอีก ที่สำคัญไม่แพ้อุปกรณ์คือหมั่นตรวจสอบระบบล็อกและกระจกให้อยู่ในสภาพดีเสมอ รวมถึงฝึกซ้อมการหนีออกจากรถในใจไว้ก่อน เพื่อให้เมื่อถึงเวลาจริงสามารถลงมือได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา NPR, The Journal, Forbes