พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ประกาศรีไทร์ Nintendo 3DS หลังให้ผู้เข้าชมเช่าใช้เป็นเครื่องบรรยายเสียงแบบส่วนตัวนานกว่า 13 ปี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานศิลปะที่จัดแสดงกว่า 700 ชิ้น
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และ Nintendo เริ่มทำงานร่วมกันในปี 2012 ด้วยการเปลี่ยนเครื่องบรรยายเสียงแบบดั้งเดิมมาใช้เครื่องเล่นเกมแบบพกพา Nintendo 3DS จำนวน 5,000 เครื่องที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2011
ภายในแก็ดเจ็ตแบบอินเทอร์แอคทีฟเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยคำบรรยายเสียงมากกว่า 30 ชั่วโมง พร้อมด้วยคลังมัลติมีเดียที่ประกอบด้วยวิดีโอ รูปภาพ และแบบจำลอง 3 มิติของงานศิลปะบางส่วนของพิพิธภัณฑ์ รองรับข้อมูลภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี โปรตุเกส เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน
นอกจากนั้นอุปกรณ์เหล่านี้ยังใช้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เพื่อสร้างทัวร์แบบกำหนดเองตามตำแหน่งของผู้ใช้ภายในพิพิธภัณฑ์ โดยมีค่าเช่าอยู่ที่วันละ 6 ยูโรหรือประมาณ 225 บาท
เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก จนกระทั่งในปี 2013 นินเทนโดได้สร้างคู่มือพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์แบบดาวน์โหลดได้สำหรับแฟนๆ สามารถซื้อและใช้งานได้จากระยะไกล
อย่างไรก็ตามในปี 2020 เมื่อ Nintendo Switch ได้รับความนิยมมากขึ้น นินเทนโดก็เลยประกาศหยุดการผลิตเครื่อง 3DS ประกอบกับพิพิธภัณฑ์หลายแห่งเริ่มนำเสนอแอปพลิเคชันมือถือที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดลงในสมาร์ทโฟนส่วนตัวได้ แทนที่จะให้บริการคู่มือดิจิทัลแยกต่างหาก
จนถึงตอนนี้นี้ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการใหม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดมาแทน
ที่มา smithsonianmag