MicroHarvest โปรตีนทางเลือกใหม่ เปลี่ยนแบคทีเรียที่ตายแล้วเป็นอาหารสุนัข

วันนี้เรามีโปรตีนทางเลือกใหม่ที่ผลิตจากพืช เห็ด และแมลง แต่ยังมีวัถุดิบอีกชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะนำมาทำโปรตีนได้นั่นก็คือ แบคทีเรียในชื่อว่า MicroHarvest

MicroHarvest คือ สตาร์ทอัพฮัมบูร์กและลิสบอน ที่เปลี่ยนขยะเกษตรกรรมให้เป็นผงโปรตีนโดยใช้แบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่อยู่รอบตัวเรา หลักการทำงานนั้นเขาจะนำขยะเกษตรกรรมมาใส่ในถังหมักขนาดใหญ่ จากนั้นก็ปล่อยจุลินทรีย์หลายพันล้านตัวเข้าไปย่อยสลาย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการหมักก็จะนำไปอบแห้งเพื่อฆ่าแบคทีเรียทั้งหมด

สิ่งที่ได้คือผงโปรตีนที่มีลักษณะเหมือนแป้งสีน้ำตาลอ่อนและมีกลิ่นคล้ายมาร์ไมท์ (สเปรด สำหรับทาขนมปังผลิตจากยีสต์หมัก) แต่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีนดิบประมาณ 60% พร้อมด้วยไฟเบอร์ กรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ มากมาย

สิ่งที่แตกต่างจากโปรตีนทางเลือกที่ผลิตจากพืชหรือสัตว์ คือใช้พื้นที่น้อยมาก ลดการใช้ที่ดินได้ถึง 99% แถมจุลินทรีย์ยังเติบโตได้ภายในไม่กี่วัน ซึ่งกระบวนการหมักของ MicroHarvest ใช้เวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง ถือว่ารวดเร็วมากเมื่อเทียบกับการปลูกถั่วเหลืองหรือการเลี้ยงสัตว์ แถมยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 70% เมื่อเทียบกับเนื้อวัว

ต่อยอดอาหารสุนัขเป็นอาหารคน

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแบคทีเรียที่ตายให้กลายเป็นอาหารแห่งอนาคตสำหรับมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งบริษัทต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากจุลินทรีย์นั้นนั้นมีต้นทุนการผลิตที่สูง

รวมถึงต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะใจผู้บริโภคที่ยังกังวลใจนการทานแบคทีเรียที่ตายแล้ว แต่จริงๆ แล้วในอาหารหลายชนิดก็มีแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์อยู่ เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ หรือ ซาวเคราต์ (กระหล่ำปลีหมักของฝรั่ง)

นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับกฎระเบียบที่ซับซ้อนและยุ่งยากเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ยังไม่ชัดเจนว่า MicroHarvest จะได้รับไฟเขียวจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งยุโรป (EFSA) ว่าจะอนุมัติให้วางขายผลิตภัณฑ์สำหรับคนบริโภคได้เมื่อใด

นั่นทำให้ตอนนี้ MicroHarvest วางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นสัตว์เลี้ยงก่อน ซึ่งปีที่แล้ว MicroHarvest ได้ร่วมมือกับ VegDog สตาร์ทอัพจากมิวนิก เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ตัวแรก ซึ่งเป็นขนมสุนัขวีแกนที่ทำจากโปรตีนจุลินทรีย์

เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์มีการควบคุมน้อยกว่าผลิตภัณฑ์สำหรับมนุษย์ แถมอาหารสัตว์และอาหารปลานั้นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน เป็นช่องทางที่บริษัทจะทำกำไรได้

ถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุมัติเมื่อไหร่ เราจะได้เห็นโปรตีนบาร์, โปรตีนเชค, ไอศครีมสำหรับคนออกมาทำตลาดในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา thenextweb

dailygizmo

นักเขียนสาย Introvert ที่ชื่นชอบเรื่องนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างกับ มังงะ, เสียงเพลงและ idol