Netflix เดินหน้ากำหนดกรอบการใช้ AI สำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ เพื่อไม่ให้ถูกนำมาใช้เกินขอบเขตความคิดสร้างสรรค์
Netflix ได้ออกแนวทางการใช้ generative AI ส่งต่อให้กับพาร์ทเนอร์ฝ่ายผลิตแบบไม่เป็นทางการ แนวทางนี้ระบุชัดว่าผู้สร้างภาพยนตร์ควรใช้ AI ในจังหวะใดได้ และเมื่อใดที่จำเป็นต้องขออนุญาตก่อนใช้งาน จุดมุ่งหมายคือเพื่อให้ AI ช่วยประหยัดเวลาโดยไม่กระทบต่อความเชื่อมั่น จริยธรรม และข้อตกลงด้านแรงงาน
แนวทางที่ Netflix เผยแพร่บนศูนย์ช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ แบ่งชัดเจนระหว่างการทดลองใช้งานแบบไม่เป็นทางการกับการนำไปใช้อย่างจริงจัง ยกตัวอย่างเช่น การทำมู้ดบอร์ดหรือภาพอ้างอิงเบื้องต้นสามารถใช้งาน AI ได้ซึ่งมีการกำกับดูแลเพียงเล็กน้อย
หากเป็นสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ มีผลต่อรูปลักษณ์นักแสดง นำไปสร้างใบหน้า เสียง ชิ้นงานตัดต่อขั้นสุดท้าย หรือเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม จะต้องได้รับอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
กรอบการใช้งานของ Netflix ยึดหลักการสำคัญ คือ การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล การเคารพทรัพย์สินทางปัญญา การคุ้มครองแรงงาน และการรักษาความเชื่อมั่นจากผู้ชม
Netflix กำหนดชัดเจนว่าโปรดิวเซอร์ห้ามป้อนข้อมูลการผลิตลงในเครื่องมือ AI ที่อาจเก็บรวบรวมหรือใช้เพื่อการฝึกซ้ำ รวมถึงห้ามใช้ AI ในการเลียนแบบทักษะของบุคคล สร้างองค์ประกอบหลักของเรื่องราว หรือปรับเปลี่ยนการแสดง เว้นแต่ได้รับการยินยอมโดยตรง โดยบริษัทเน้นย้ำว่า AI เป็นเพียง “ผู้ช่วยด้านความคิดสร้างสรรค์” ไม่ใช่สิ่งที่มาแทนศิลปินหรือทีมงาน
ท่าทีนี้สะท้อนจากกรณีถกเถียงที่ผ่านมา เช่น การใช้ภาพที่สร้างด้วย AI ในสารคดี What Jennifer Did (2024) และการพึ่งพา AI เพื่อสร้างฉากในซีรีส์ไซไฟอาร์เจนตินา The Eternaut ซึ่ง Netflix มองว่าช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลา แม้ เท็ด ซารันดอส ซีอีโอร่วม จะปกป้องการใช้งานดังกล่าว แต่ก็ยอมรับว่ามีแรงกดดันระหว่าง “ความคุ้มค่า” กับ “ความซื่อสัตย์ทางศิลปะ”
เรื่องแรงงานก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ หลังการประท้วงฮอลลีวูดปี 2023 ทำให้เรื่องการแสดงสังเคราะห์และความมั่นคงในการทำงานถูกเพ่งเล็งมากขึ้น Netflix จึงย้ำว่างานที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของสหภาพแรงงานไม่สามารถแทนที่ด้วย AI ได้ง่าย ๆ และการใช้งานที่ทับซ้อนกับบทบาทเหล่านี้ต้องผ่านการตรวจสอบและข้อตกลงที่ชัดเจนก่อน
ที่มา designtaxi