’28 Years Later’ ภาคต่อของภาพยนตร์ซอมบี้คลาสสิก 28 Days Later (2002) ได้รับการยืนยันจากผู้กำกับ แดนนี บอยล์ (Danny Boyle) ว่าในภาคใหม่นี้มีการถ่ายทำด้วย ‘iPhone 15 Pro Max’ และในบางฉากมีการใช้ iPhone มากถึง 20 เครื่อง พร้อมกันเลยทีเดียว !
หากย้อนกลับไปภาคก่อนอย่าง 28 Days Later ก็ใช้คอนเซปต์แบบนี้เช่นเดียวกันครับ ในตอนนั้น บอยล์ ตัดสินใจใช้ ‘Canon XL1’ กล้องวิดีโอดิจิทัลทั่ว ๆ ไป ทำให้ได้ภาพที่มีความรู้สึก “ดิบ หยาบ และสมจริง” เหมาะกับบรรยากาศของโลกหลังวิกฤติไวรัส สร้างความรู้สึกอึดอัด และสมจริง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้
ซึ่งการที่ภาคใหม่ตัดสินใจใช้ iPhone มาถ่ายทำ ก็เพราะตัว บอยล์ อยากคงคอนเซปต์บรรยากาศของภาพยนตร์ภาคแรกอีกครั้ง ถ้ามีเหตุการณ์วันสิ้นโลกเกิดขึ้นจริง ๆ ภาพที่ถูกบันทึกก็คงมาจากกล้องวิดิโอดิจิทัลราคาถูก ซึ่งในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นสมาร์ตโฟนที่ทุกคนใช้งานกัน
ในบางฉากยังมีการติดตั้ง iPhone บน rig ถึง 20 เครื่อง ด้วยกัน เพื่อเก็บภาพมุมมอง 180 องศา ทำให้สามารถเลือกมุมกล้องได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะใช้แบบกล้องเดี่ยวในมุมปกติ หรือใช้ “วนรอบตัวละคร” เพื่อกระโดดช่วงข้ามเวลา และเน้นอารมณ์ในบางช่วงก็สามารถทำได้
บอยล์ ยังกล่าวอีกว่า “iPhone เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม ที่ช่วยให้เหล่านักแสดงรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ” เพราะปกติแล้วการใช้กล้องระดับ cinema ถ่ายทำ ตัวนักแสดงจะรู้ว่ากล้องอยู่ตรงไหน, ใช้เลนส์แบบไหนอยู่ และรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร แต่การใช้กล้องหลายตัวในลักษณะนี้จะสร้างความประหลาดใจ และความเป็นธรรมชาติของตัวนักแสดงได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ iPhone จะมีราคาถูกกว่ากล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ แต่การถ่ายทำระดับนี้ก็ยังต้องใช้อุปกรณ์เสริมมากมาย เช่น rig, เลนส์พิเศษ, มอนิเตอร์, เครน, matte box ฯลฯ อีกมากมาย ซึ่งรวมกันแล้วมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าแค่สมาร์ตโฟนเปล่า ๆ เครื่องเดียวก็สามารถถ่ายได้…
28 Years Later มีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เดือนมิถุนายน 2025