ในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานจริงอย่างแพร่หลายมากขึ้น อาจทำให้นายจ้างมีความเสี่ยงที่จะได้พนักงานที่ไม่สามารถทำงานได้จริง เพราะอาศัยเครื่องมือ AI มากเกินไปตั้งแต่แรก
ความเคลื่อนไหวในวงการปัญญาประดิษฐ์ เอไอพัฒนาไปถึงขั้นไหน มีผลกระทบอย่างไร Ceei รวบรวมมาแล้ว
ในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานจริงอย่างแพร่หลายมากขึ้น อาจทำให้นายจ้างมีความเสี่ยงที่จะได้พนักงานที่ไม่สามารถทำงานได้จริง เพราะอาศัยเครื่องมือ AI มากเกินไปตั้งแต่แรก
ในการถ่ายภาพหรือวิดีโอ ศาสตร์แขนงที่ขาดไปไม่ได้ก็คือการจัดแสงนั้นเองครับ ซึ่งต้องยอมรับว่าการจัดไฟในสตูดิโอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ การจะเข้าใจก็ต้องทำการทดลองกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย แต่การเรียนรู้การจัดแสงในสตูดิโอจะทำได้ง่ายขึ้น ด้วย ‘Learning Light’ เครื่องมือใหม่จาก Google ที่ปล่อยให้เราได้ใช้งานกันได้แบบฟรี ๆ สำหรับ Learning Light เป็นเครื่องมือในโปรเจกต์ AI experiments ที่เน้นในด้านศิลปะ และวัฒนธรรมของ Google นั้นเองครับ โดยรวมเอา Ai chatbot เข้ากับเวที virtual stage
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025 Meta ประกาศเปิดตัว Llama 4 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Llama ชูจุดเด่นคือการเป็นโมเดลแบบ multimodal อย่างแท้จริงที่สามารถเข้าใจและประมวลผลข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่เพียงข้อความเท่านั้น Llama 4 เปิดตัวพร้อมกันสองรุ่นหลัก ได้แก่ สถาปัตยกรรมใหม่ของ Llama 4 สิ่งที่น่าสนใจคือ Llama 4 ทั้งสองรุ่นถูกพัฒนาด้วยสถาปัตยกรรมแบบ “Mixture-of-Experts” (MoE) ซึ่งทำให้โมเดลมีความฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไมโครซอฟท์ได้ประกาศผ่านบล็อกโพสต์ถึงการยกระดับ Copilot ผู้ช่วย AI สุดอัจฉริยะ โดยจะมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ “Vision” ที่จะทำให้ผู้ใช้งานทึ่ง! ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Copilot สามารถมองเห็นและโต้ตอบกับหน้าจอ Windows ของผู้ใช้งานได้แบบเรียลไทม์ ราวกับมีเพื่อนคู่คิดอยู่ข้าง ๆ
ผลการทดลองจากห้องปฏิบัติการด้านภาษาและการรับรู้ของมหาวิทยาลัย UC San Diego ออกมาบอกว่า ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถแยกได้ว่าแชตบอตที่กำลังคุยอยู่คือมนุษย์ หรือ AI โดยเฉพาะ GPT-4.5 ที่สามารถหลอกผู้เข้าร่วมการทดลองได้มากกว่ามนุษย์จริง
เชื่อว่าคนโสดหลายคน ยังไม่เคยมีประสบการณ์ลงมือจีบคนที่ชอบจริง ๆ ทำให้เวลาออกเดตแล้วทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องพูด ต้องทำท่าอย่างไร เพื่อช่วยให้คนโสดมีโอกาสมีคู่มากขึ้น ทาง Tinder เลยจับมือ OpenAI เปิดตัว ‘The Game Game’ เกมจำลองการออกเดต ให้ผู้เล่นลองทดสอบทักษะการจีบ ด้วยการให้ไปจีบ AI ซะเลย เกมนี้ออกแบบมาเพื่อให้เราฝึกพูดคุยกับเพศตรงข้ามในรูปแบบของ AI ที่ใช้โมเดล GPT-4o ของ OpenAI โดยตัวเกมจะแจกไพ่ให้เรา ซึ่งไพ่แต่ละใบนั้น ก็คือ AI
วัล คิลเมอร์ (Val Kilmer) คือหนึ่งในตำนานของฮอลลีวูดที่โด่งดังจากบทบาท ‘Iceman’ ใน ‘Top Gun’ จิม มอร์ริสัน ใน ‘The Doors’ และแบทแมนใน ‘Batman Forever’ ชีวิตของเขากลับต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อวันหนึ่งเสียงที่เคยทรงพลังต้องเงียบหายไป ในปี 2015 คิลเมอร์ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำคอ การรักษาด้วยการฉายรังสีและการผ่าตัดช่วยยื้อชีวิตไว้ได้ แต่กลับพรากเสียงของเขาไปเกือบหมด เขาต้องใช้ท่อเจาะคอเพื่อการหายใจ การพูดกลายเป็นเรื่องยากลำบาก และเสียงพูดของเขาแทบไม่มีใครฟังรู้เรื่อง เสียงที่เคยเปล่งอารมณ์ในจอภาพยนตร์กลับเหลือเพียงเสียงกระซิบแหบพร่า สำหรับนักแสดง เสียงไม่ใช่แค่เครื่องมือ
กระแสการใช้ AI แปลงภาพถ่ายให้กลายเป็น “ลายเส้นแบบการ์ตูน Ghibli” กำลังมาแรงทั่วโซเชียล มีทั้งภาพสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก ภาพมีมตลก หรือแม้แต่ภาพบุคคล ที่กลายเป็นเหมือนตัวละครในโลกแฟนตาซีของ Studio Ghibli แม้ภาพเหล่านี้จะดูเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลกจนติดเทรนด์ แต่ในฝั่งของผู้สร้างตัวจริงอย่าง ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) ผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Ghibli ไม่เคยเห็นด้วยกับการใช้ AI มาทำภาพเลยแม้แต่น้อย เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นการดูหมิ่นชีวิตมนุษย์อย่างที่สุด” พร้อมระบุว่า AI ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ และไม่ควรเข้ามาแทนที่จิตวิญญาณของการสร้างสรรค์
ภาพยนตร์ไซไฟจากสวีเดน "Watch the Skies" กำลังจะเข้าฉายในสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้ผู้ชมแทบไม่รู้เลยว่าภาพยนตร์ต้นฉบับไม่ได้ถ่ายทำเป็นภาษาอังกฤษ
จากรายงานของสำนักข่าว Mirror เผยชีวิตหญิงสาวที่นำอาการผิดปกติของร่างกายไปถาม ChatGPT จากที่คิดว่าแค่เครียด แต่แชทบอตกลับเตือนว่าเธออาจเป็นมะเร็ง และเมื่อไปพบหมอก็กลับเจอมะเร็งเข้าจริง ๆ หลังสูญเสียพ่อจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มาร์ลี การ์นไรเทอร์ หญิงสาววัย 27 ปีจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ก็เริ่มมีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืนและคันผิวหนัง ซึ่งเธอคิดว่าเป็นผลมาจากความเครียดและความเศร้าจากการสูญเสียพ่อเท่านั้น อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของเธอกลับลดลงอย่างรวดเร็วจนเธอเริ่มกังวล จึงตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด แต่เมื่อผลตรวจออกมาปกติ แพทย์จึงสันนิษฐานว่าอาการที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลจากความเครียดและความเศร้าโศกจากการสูญเสียพ่อของเธอจริง ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกว่าอาการของตัวเองอาจมีสาเหตุที่มากกว่าความเครียดเพียงอย่างเดียว ในเดือนพฤษภาคม 2024 มาร์ลีจึงตัดสินใจสอบถาม ChatGPT เกี่ยวกับอาการของตัวเอง