ความเคลื่อนไหวในวงการปัญญาประดิษฐ์ เอไอพัฒนาไปถึงขั้นไหน มีผลกระทบอย่างไร Ceei รวบรวมมาแล้ว
AI จาก OpenAI, Anthropic และบริษัทอื่น ๆ กำลังถูกนำมาใช้งานมากขึ้นในงานหลาย ๆ ด้านรวมถึงด้านการโค้ดด้วย ซันดารฺ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของ Google กล่าวเมื่อเดือนตุลาคมว่าโค้ดใหม่กว่า 25% ในบริษัทถูกสร้างขึ้นโดย AI ด้านมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Meta ก็ได้แสดงมุ่งมั่นที่จะนำโมเดลการเขียนโค้ด AI ไปใช้งานอย่างแพร่หลายในแพลตฟอร์มของบริษัทด้วย
Apple นับเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้พอสมควร ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้การพัฒนา AI ทั้งโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับ Apple Intelligence และการปรับปรุง Siri เป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น ตามหลักแล้วการพัฒนา Apple Intelligence ทางบริษัทต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อปรับปรุง และเขียนเครื่องมือต่าง ๆ ขึ้นมา แต่ด้วยนโยบายที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นหลัก ทางบริษัทจึงใช้อีกวิธีนั้นก็คือ ‘Differential Privacy’ หรือข้อมูลสังเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มการใช้งาน และข้อมูลที่แตกต่างกันโดยไม่เชื่อมโยงกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง สำหรับใครที่ไม่เห็นภาพ ยกตัวอย่างเช่น Apple สร้างอีเมลสังเคราะห์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการนัดเล่นเทนนิสตอน 15.00 น. ขึ้นมา
OpenAI ประกาศเปิดตัว ‘GPT-4.1’ โมเดล AI รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อมาจาก GPT-4o โดยกล่าวว่าเวอร์ชันนี้ดีกว่าเดิมในแทบทุกมิติเลยครับ ทั้งหน้าต่าง context window ที่ใหญ่กว่า รวมถึงมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในส่วนของการ coding และการปฏิบัติตามคำสั่ง ตอนนี้ GPT-4.1 พร้อมให้นักพัฒนาใช้งานกันก่อนแล้วครับ โดยมีโมเดลขนาดเล็กอีก 2 รุ่น ให้เลือกใช้ ได้แก่ ‘GPT-4.1 Mini’ ที่มีจุดเด่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าคือราคาไม่แพง และ ‘GPT-4.1 Nano’ รุ่นเล็กที่สุด
Canva ประกาศอัปเดต Visual Suite 2.0 ครั้งใหญ่ในงาน Canva Create เพิ่มความสามารถ AI มาช่วยสร้างแผนภูมิ แต่งรูป เขียนโค้ดและสร้างโปรเจกต์ได้ง่ายขึ้น Visual Suite 2.0 มี AI เป็นหัวใจสำคัญ ช่วยให้สร้างสรรค์งานออกแบบได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานนำเสนอ วิดีโอ ไวท์บอร์ด และเว็บไซต์ ออกแบบครั้งเดียวสามารถนำไปใช้กับหลายๆ ฟอร์แมตโดยที่ไม่ต้องสลับเครื่องมือ พร้อมปลดล็อกความสามารถใหม่ๆเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เปลี่ยนไอเดียที่อยู่ในหัวให้กลายเป็นชิ้นงานได้ง่ายขึ้น ลองไปดูว่าเครื่องมืออะไรที่น่าสนใจบ้าง Canva
สมัยก่อนการจะใช้ซอฟต์แวร์ปรับภาพคมชัดต้องบอกว่าไม่ใช่ของที่ราคาถูกครับ โดยเฉพาะโปรแกรมที่สามารถแก้ภาพเบลอ, ลด noise หรืออัปสเกลภาพ แต่ปัจจุบันเรามีตัวเลือกมากขึ้นวันนี้จึงอยากมาแนะนำ ‘Unblur Image Online‘ เว็บแอป AI ปรับภาพคมชัดที่ให้คุณภาพที่ดี แถมใช้ฟรีขอแค่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ! ซึ่งเจ้าเว็บแอปตัวนี้สามารถใช้ฟรีได้ 6 ครั้งต่อวันครับ ซึ่งคุณภาพที่ได้ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้ว และแน่นอนว่าดีกว่าที่มีในสมาร์ตโฟนหลายตัว แถมยังใช้บนอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่ต่ออินเตอร์เน็ต และเปิดเบราว์เซอร์ได้ Unblur Image Online มีหัวข้อในการปรับภาพ 3 โหมดให้เลือกด้วยกันครับ ได้แก่
ChatGBT ขึ้นแท่นกลายเป็นแอปที่มีคนโหลดเยอะที่สุดในโลก (ไม่รวมเกม) ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แซงหน้าแอปยอดฮิตอย่าง Instagram และ TikTok นับเป็นครั้งแรกที่แอปนี้ขึ้นแท่นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดประจำเดือน และยังเป็นเดือนที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดตั้งแต่มีมาของ ChatGPT อีกด้วย ! สำหรับยอดดาวน์โหลดรวมของ ChatGPT นั้นขึ้นนำหน้า Instagram เล็กน้อยครับใกล้เคียงกันที่ 46 ล้านครั้ง และตามมาด้วย TikTok ที่ 45 ล้านครั้ง ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งสิ่งที่คาดว่าทำให้ ChatGPT มียอดโหลดพุ่งสูงนำหน้าแอปอื่น
Google เตรียมเปิดเดตฟีเจอร์เด็ดให้กับโมเดลวิดีโอ ‘Veo 2’ เพิ่มความสะดวกสบาย และ workflow ที่ลื่นไหลกว่าเดิม ทั้งเทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้ในภาพยนตร์, ลบวัตถุในเฟรม, ขยายเฟรมภาพ ฯลฯโดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ 1. Cinematic Controls: ปรับแต่งภาพสไตล์เดียวกับภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค time-lapse, มุมมองโดรน, หรือใช้เทคนิคการแพนกล้องโดยใช้พิมพ์ส่งเข้าไป อย่างเช่น “pan right” แพนกล้องไปทางขวา 2. Inpainting: ลบวัตถุที่ไม่ต้องการในวิดีโอ เช่น โลโก้หรือสิ่งรบกวนอื่น ๆ
Netflix กำลังเริ่มทดสอบฟีเจอร์ค้นหาซีรีส์ / ภาพยนตร์ด้วยการร่วมมือกับ OpenAI ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาแนวภาพยนตร์ตามอารมณ์ และความชอบส่วนบุคคลให้อย่างตรงใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้สามารถใช้คำค้นหาคำที่มีความเจาะจง และซับซ้อนได้มากกว่าการค้นหาตามประเภทหรือชื่อนักแสดงครับ อีกทั้งตอนนี้ยังเปิดให้ทดสอบกันแล้วกับผู้ใช้บางรายในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ บนระบบ iOS โดยมีแผนจะขยายไปยังสหรัฐอเมริกาภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ จากรายงานของ โมโม โจว (MoMo Zhou) โฆษก Netflix ยืนยันว่าฟีเจอร์ใหม่ตัวนี้ได้เริ่มทดสอบแล้วเป็นความจริงครับ แต่ยังไม่มีแผนที่จะขยายไปแพลตฟอร์มอื่นนอกจาก iOS ในตอนนี้ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจทีเดียวครับ ซึ่งถ้าเปิดใช้ฟีเจอร์นี้จริง ๆ ผู้ใช้หลายคนยังจะเจอปัญหาเปิด Netflix
Adobe เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ AI Chatbot ที่สามารถวิเคราะห์ตัดต่อรูปบนแอป Photoshop ให้เราได้แบบอัตโนมัติ ภาพไหนควรตกแต่งแบบใดก็วิเคราะห์แนะนำให้เรา และแต่งให้เสร็จสรรพในคลิกเดียว โดยเทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า ‘agentic AI’ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความยุ่งยากในกระบวนการแก้ไขภาพ โดยตัวมันเองสามารถวิเคราะห์ภาพของเรา และแนะนำการตกแต่งรูปที่เหมาะสมได้ เช่น การตัดต่อตกแต่งท้องฟ้าให้สวยงามมากยิ่งขึ้น, การลบสิ่งรบกวนในภาพอย่างเสาไฟ และสายไฟต่าง ๆ หรือการเบลอฉากหลังเพิ่มให้ภาพดูมีมิติมากกว่าเดิม นอกจาก Photoshop ที่ทาง Adobe ได้วางรากฐานสำหรับฟีเจอร์ AI มาสักพักใหญ่ ๆ
หลังจากที่ แซม อัลต์แมน (Sam Altman) โพสต์บน X ว่า เทรนด์การให้ AI สร้างภาพ ทำให้เซิร์ฟเวอร์และ GPU ทำงานอย่างหนักหน่วง รวมถึงเทรนด์สุดไวรัลที่ผู้ใช้จำนวนมากให้ AI สร้างภาพสไตล์ Studio Ghibli ก็ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากมายเกี่ยวกับคำถามด้านจริยธรรม ลิขสิทธิ์ และอนาคตของงานศิลปะยุค AI บนโลกโซเชียล ล่าสุดอัลต์แมนได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวผ่านพอดแคสต์ของยูทูบเบอร์ วรุน เมย์ยะ (Varun Mayya) แล้ว
