ความเคลื่อนไหวในวงการปัญญาประดิษฐ์ เอไอพัฒนาไปถึงขั้นไหน มีผลกระทบอย่างไร Ceei รวบรวมมาแล้ว
Axios เผยสถิติยอดการใช้งานของ ChatGPT พบว่ามีคนใช้งาน Prompts มากกว่าวันละ 2,500 ล้านคำสั่ง โดย 330 ล้านคำสั่งมาจากผู้ใช้ในสหรัฐ หลายคนคงสงสัยว่าแล้วข้อมูลนี้แม่นแค่ไหน ซึ่งหลังจากที่ข่าวนี้เผยแพร่ออกมา ทาง Rob Friedlander โฆษกของ OpenAI ยืนยันกับ The Verge ว่าตัวเลขที่ Axios รายงานนั้นถูกต้อง ข้อมูลนี้น่าสนใจยังไง? ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า ChatGPT นั้นได้รับความนิยมอย่างมาก คิดแล้วในปีหนึ่ง มีการส่ง
Aravind Srinivas ซีอีโอของ Perplexit เคลมว่า Comet เบราว์เซอร์ AI ของบริษัทจะเข้ามารับหน้าที่ประจำแทน 2 ตำแหน่งนี้ได้ในทุกองค์กร Aravind Srinivas ซีอีโอของ Perplexity สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นของเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในรายการพอดแคสต์ “Decoder” ทางช่อง The Verge ว่า Comet ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนในที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ โดยเฉพาะงานของฝ่ายสรรหาบุคลากรและผู้ช่วยผู้บริหารทำงาน โดยเขาเคลมว่า “งานของนักสรรหาบุคลากรที่ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ได้ตั้งคำถามมอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับกระแสเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า EV และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ในประเทศ ท่ามกลางความวิตกกังวลด้านสภาวะเงินฝืด และความตึงเครียดทางการค้าต่อสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จากรายงานของสื่อ Financial Times สี จิ้นผิงได้กล่าวเตือนเรื่องการลงทุนที่เกินตัวอย่างชัดเจน ในที่ประชุม “การพัฒนาเมืองส่วนกลาง” (Central Urban Work Conference) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งเป็นเวลา 2 วัน เมื่อพูดถึงโครงการต่าง
ในเวทีเสวนา “อนาคตข่าวไอทีในยุค AI นำองค์กร” ซึ่งจัดโดยชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สะท้อนภาพความท้าทายของนักข่าวไอทีในปัจจุบัน ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่ออย่างสิ้นเชิง ผู้เชี่ยวชาญจากวงการดิจิทัลชี้ว่า เมื่อ AI และคอนเทนต์ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทัดเทียมกับสื่อมวลชน ทางรอดของนักข่าวไอทีไม่ได้อยู่ที่การสรุปข่าวตามข่าวประชาสัมพันธ์อีกต่อไป แต่ต้องปรับตัวด้วยการสร้างตัวตน, การใช้ข้อมูลเชิงลึก และการใช้ AI เป็นเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ ทางรอดที่ 1: สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ (Personal Branding) วิทยากรในวงเสวนา ได้แก่ คุณจักรพงษ์ คงมาลัย จาก Moonshot Digital และ
ใครที่ทำงานด้านวิดีโอเป็นประจำ ตอนนี้ Adobe FireFly เปิดให้ผู้ใช้พิมพ์หรือฮัมเพลงก็สามารถสร้างชาวด์เอฟเฟ็กต์ที่ต้องการได้ Adobe ได้ทำการอัปเดตเครื่องมือตัดต่อวิดีโอในแอป FireFly ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถฮัมเพลงหรือพิมพ์ข้อความลงในวิดีโอที่ต้องการเพื่อสร้างเสียงประกอบได้แบบเฟรมต่อเฟรม ฟีเจอร์สร้างเอฟเฟ็กต์เสียง (Generate Sound Effects) นี้มาพร้อมการอัปเดตในเดือนกรกฎาคมโดยยังเป็นเวอร์ชันทดสอบอยู่ ซึ่ง เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดีไซน์เสียงประกอบได้ง่ายขึ้น เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายประกอบ, บันทึกเสียงหรือฮัมเพลงที่ต้องการ จากนั้น AI จะสร้างเสียงประกอบมาให้ 4 แบบเพื่อให้เราเลือกใช้ ถูกใจเสียงไหนก็วางลงในไทม์ไลน์ของเครื่องมือตัดต่อวิดีโอได้โดยตรง วิธีนี้ช่วยลดเวลาในการค้นหาไฟล์จากคลังภาพและเสียง รวมถึงเปิดให้ผู้ใช้ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น นอกจากการเสียงประกอบแล้ว Firefly ทาง
OpenAI เตรียมเพิ่มระบบชำระเงินผ่าน ChatGPT ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท โดย OpenAI จะกินส่วนแบ่งรายได้จากยอดขายที่ผู้ใช้งานสั่งซื้อสินค้าหรือชำระเงินผ่าน ChatGPT
Decart บริษัทสตาร์ทอัป AI เปิดตัวโมเดลวิดีโอ AI ที่เคลมว่าสามารถแปลงฟุตเทจไลฟ์สตรีมได้แบบเรียลไทม์ และเจ้าแรกของโลกที่ทำได้ ในชื่อ ‘Mirage’ Mirage ถูกพัฒนาขึ้นโดยตั้งเป้าที่จะปฏิวัติวงการไลฟ์สตรีม ด้วยการต่อยอดจากกระแสวิดีโอ AI ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ที่ทางค่ายต่าง ๆ อย่าง Google Veo และ OpenAI Sora ได้เปิดทางไว้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดทางบริษัทได้เปิดตัวเว็บไซต์ และแอปฯ Mirage ให้ผู้ใช้สามารถทดลองแปลงวิดีโอเข้ากับธีม AI สำเร็จรูปต่าง ๆ
ในขณะที่หลายบริษัทเทคโนโลยีมักกล่าวอ้างถึงการร่วมมือกับสตูดิโอในฮอลลีวูด เพื่อใช้เทคโนโลยี AI ของตนมาทำให้ workflow การทำงานเป็นไปได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น ล่าสุด Netflix แพลตฟอร์มสตริมมิงวิดีโอยักษ์ใหญ่ก็ได้ออกมาเผยว่า นำเอา GenAI มาใช้ในซีรีส์ / ภาพยนตร์ของตัวเองแล้วเช่นกัน เท็ด ซาแรนดอส (Ted Sarandos) ซีอีโอ Netflix กล่าวในงานประชุมระหว่างนักลงทุนหลังประกาศผลประกอบการว่า “ฟุตเทจที่สร้างโดยเทคโนโลยี GenAI ตัวแรกได้ถูกนำมาใช้จริงแล้ว ผ่านซีรีส์อาร์เจนตินาชื่อ ‘El Eternauta’ (The Eternaut) ซึ่งสร้างโดยทีมฝ่ายผลิตภายในของ
ซีอีโอของ Google ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ได้เผยซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยใหม่ของบริษัทในชื่อ Big Sleep เป็นเครื่องมือ AI ตัวแรกที่จะช่วยตรวจจับการโจมตีผ่านช่องทางไซเบอร์พร้อมกับรับมือให้ด้วย
ทีมวิจัย Typhoon จาก SCB 10X ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ ประสบความสำเร็จในการส่งผลงานวิจัยร่วมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จำนวน 5 ชิ้น เข้าร่วมการประชุมวิชาการระดับโลก Association for Computational Linguistics (ACL) 2025 ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันงานวิจัยของไทยสู่เวทีระดับสูงสุด หรือ “A-Star (A*) Research” ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จัดอันดับโดยองค์กร CORE โดยผลงานทั้งหมดเป็นความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ สถาบันวิทยสิริเมธี
