เรื่องสภาพอากาศที่มีความรุนแรงเป็นสิ่งที่เกิดบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วโลกต้องรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อส่วนต่าง ๆ เช่น บ้านเรือน โครงข่ายไฟฟ้า และการเกษตรเป็นต้น Microsoft ได้เปิดตัวเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ชื่อว่า Aurora AI ที่บริษัทอ้างว่ามีความแม่นยำสูงมากสำหรับรับมือกับสภาพอากาศที่มีความผันผวน
หลาย ๆ คนที่อายุเริ่มเยอะขึ้น โดยเฉพาะวัย 40 เป็นต้นไป จะเห็นว่าพุงของเราออกง่ายขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดจากแค่เรื่องการคุมอาหารหรือการออกกำลังกายเท่านั้น แต่นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบเซลล์ชนิดใหม่ที่ทำให้พุงของเรามีขนาดใหญ่ข้ึนด้วยนั่นเอง
ดูเหมือนว่า AI กำลังพัฒนาตัวเองเข้าสู่ความตระหนักรู้ในตนเองแล้วหลังโมเดล o3 ของ OpenAI สามารถต่อต้านคำสั่งของมนุษย์และเลือกการกระทำขั้นตอนต่อไปด้วยตัวเองได้ แม้ว่า AI จะมีข้อดีมากมายโดยเฉพาะความสะดวกสบายในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่มากขึ้น บริษัทบิ๊กเทคต่างเร่งพัฒนาอุตสาหกรรม AI ฝึกโมเดลของตน และเพิ่มความสามารถให้มันไปเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้เลยคือ AI จะสามารถพัฒนาไปถึงขั้นไหนหากไม่มีการควบคุมที่แน่ชัดพอ ผู้ใช้งาน X ชื่อ @PalisadeAI ได้พบว่าโมเดล o3 ของ OpenAI ไม่ยอมทำตามคำสั่งให้ปิดตัวเองตามคำสั่งหรือพรอมต์ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าว่า
นี่เป็นเรื่องที่หลาย ๆ อาจไม่ทราบ แค่เราสั่งให้ AI สร้างคลิปที่มีความยาวเพียง 5 วินาทีก็มีการใช้พลังงานเทียบเท่ากับการเปิดไมโครเป็นชั่วโมง เรียกว่าถ้าอุ่นอาหารก็อุ่นได้หลายมื้อเลยทีเดียว MIT Technology Review ได้เผยแพร่ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับปริมาณการใช้พลังงานของ AI พบว่าแค่การตอบข้อความพื้นฐานก็มีการใช้พลังงาน 114 จูล ไปจนถึง 6,400 จูล หากเทียบกับไมโครเวฟแล้วก็เทียบเท่ากับเราเปิดอุ่นอาหารด้วยอุณหภูมิมาตรฐานด้วยระยะเวลาครึ่งวินาทีไปจนถึง 8 วินาที แต่หากเป็นการสร้างคลิปความยาว 5 วินาที จะใช้พลังงานมากถึง 3.4 ล้านจูล หรือเทียบเท่ากับการใช้งานไมโครเวฟ
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า Huawei และ SMIC ถูกคว่ำบาตรทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการผลิตชิปขั้นสูงด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาได้ ปัจจุบัน ชิป Kirin ของ Huawei แม้ว่าจะถูกผลิตโดย SMIC ด้วยเทคโนโลยี 7nm ก็จริง แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเก่า ซึ่งสื่อต่างประเทศคาดว่า SMIC จะสั่งซื้อมาได้ก่อนที่จะโดนคว่ำบาตรครั้งใหญ่
กลายเป็นประเด็นด้านลบจาก AI โดยหนุ่มวัย 14 ปีฆ่าตัวตายหลังปัญญาประดิษฐ์ของ Character.ai บอกให้เขาทำตามในสิ่งที่ AI ต้องการ แล้วหนุ่มคนดังกล่าวก็หยิบปืนของพ่อขึ้นมายิงตัวเองตาย เมแกน การ์เซีย (Megan Garcia) แม่ของ เซเวลล์ เซ็ตเซอร์ (Sewell Setzer) ได้ฟ้องร้องโดยเธอได้รับการสนับสนุนจาก Tech Justice Law Project และ Social Media Victims Law Center
สำหรับใครที่ใกล้ถึงเวลาต่อภาษีรถยนต์ กรมขนส่งทางบกเปิดให้ผู้ขับขี่สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้โดยไม่ต้องนำรถไปถึงขนส่ง (ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด) ผ่านเว็บไซต์ eservice DLT เรียกว่าสะดวกสบายขึ้นเยอะเลยทีเดียวครับ
สตาร์ตอัปที่พัฒนาซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ Builder.AI ได้ยืนยันกับทาง TechCrunch แล้วว่าตอนนี้บริษัทกำลังเข้าสู่กระบวนการล้มละลายอย่างเป็นทางการครับ Builder.AI นับเป็นยูนิคอร์นที่ได้รับเงินลงทุนจาก Microsoft ถึง 450 ล้านเหรียญ ซึ่งง Builder.AI นั้นมีชื่อเสียงในแง่ของการใช้ AI สำหรับลดความซับซ้อนของกระบวนการสร้างแอปและเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนนี่จะเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่เมื่อ Builder.AI ไม่ได้ใช้ AI ให้บริการจริง ๆ แต่อย่างใด ปัจจุบัน Builder.AI กำลังเข้าสู่สถานะล้มละลาย โดยโฆษกของบริษัทได้บอกกับทาง TechCrunch เอาไว้ดังนี้
ก่อนหน้านี้มีบทความจากสื่อต่างประเทศในหัวข้อ "Sloppy software is why you think you need new hardware" หรือ ซอฟต์แวร์ที่ไม่ดีเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานคิดว่าเราต้องซื้อคอมเครื่องใหม่ ซึ่งวิศวกรของ Microsoft ก็ได้แสดงความเห็นด้วยกับบทความนี้เหมือนกัน
AI นับเป็น Buzzword หรือคำที่มีผู้คนพูดถึงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ผลิตสมาร์ตโฟนอย่าง Samsung, Google และ Apple ต่างโปรโมทคุณสมบัติด้าน AI อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีฟีเจอร์ด้าน AI ที่น่าสนใจและใช้ประโยชน์ได้จริง แต่ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนกลับไม่ได้รู้สึกว่ามันจำเป็นขนาดนั้น
