Dyson เปิดตัว Supersonic R ไดร์ดีไซน์ใหม่ ปรับความร้อนอัตโนมัติ ไม่ทำร้ายเส้นผม

Dyson ใช้เวที New York Fashion Week เปิดตัว Supersonic R ไดร์เป่าผมไฮเทค ปรับความร้อนอัตโนมัติ ไม่ทำร้ายเส้นผม

ไดสันเปิดตัวไดร์เป่าผม Supersonic มาตั้งแต่ปี 2016 แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีมากนัก ในงาน New York Fashion Week ปีนี้จึงได้ประกาศเปิดตัว Supersonic R ไดร์เป่าผมไฮเทค ปรับความร้อนอัตโนมัติ ไม่ทำร้ายเส้นผม สำหรับผู้ใช้กลุ่มมืออาชีพ

Supersonic R เป็นไดร์รุ่นอัปเกรด เปลี่ยนดีไซน์เป็นรูปตัว r ซึ่งเขาบอกว่าดีไซน์แบบนี้นั้นมีข้อดีหลายอย่างเมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่ตัวเครื่องที่เล็กลง 30% น้ำหนักที่เบาขึ้นถึง 20% เคลื่อนไหวได้คล่องตัวขึ้น แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 5-6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

การที่ไดสันเปลี่ยนดีไซน์เพราะมีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ใช้กลุ่มช่างทำผมและแฮร์สไตลิสต์ว่าอยากเห็นการเป่าผมให้ชัดเจนขึ้น เพื่อจะได้ปรับองศาการเป่าโดยที่เราไม่จำเป็นต้องพลิกมือเยอะซึ่งจะทำให้เกิดการปวดเมื่อยหรืออาการบาดเจ็บตามมาสำหรับช่างทำผมที่ต้องใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ

ตำแหน่งของปุ่มต่างๆก็เลยเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เริ่มตั้งแต่ปุ่มเป่าลมเย็นจากเดิมที่อยู่ด้านหนังของด้ามจับก็เปลี่ยนมาเป็นด้านหน้าใต้ส่วนโค้งแทน

ปกติแล้วไดร์ทั่วไปจะวางคอยน์ทำความร้อนไว้หน้าใบพัดเพื่อเป่าลมร้อนออกไป แต่ไดสันเปลี่ยนคอยน์ทำความร้อนมาเป็น แผ่นจานทำความร้อน 3 ชิ้นซ้อนกันเหมือนตะแกรง ส่งผลให้ทำความร้อนได้อย่างทั่วถึง

ตัวไดร์ยังใช้มอเตอร์ Hyperdymium ที่ไดสันพัฒนาขึ้นเอง มีเซนเซอร์ RFID คอยสื่อสารกับมอเตอร์, เทอร์มิสเตอร์ชนิดลูกปัด, เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิเพื่อคอยตรวจจับความร้อน ปรับให้อยู่ในระดับแรงลมและความร้อนที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เส้นผมถูกทำร้าย

นอกจากนั้นที่ตัวด้ามจับด้านล่างของ Supersonic R ยังมาพร้อมฟิลเตอร์กรองอากาศ โดยมีเซนเซอร์ใหม่คอยควบคุมการทำงาน ฟิลเตอร์นี้จะกรองละอองสเปรย์หรือเซรัมต่างๆที่ฟุ้งกระจายในร้านทำผมที่ถุกดูดเข้าไปเพื่อให้เราใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องบำรุงรักษามาก

สำหรับคนที่สนใจจะเริ่มวางขายในเดือนมีนาคมนี้ในราคา 569.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 20,440 บาท

ที่มา https://www.theverge.com/2024/2/8/24063308/dyson-supersonic-r-hairdryer-beauty-tech

dailygizmo

นักเขียนสาย Introvert ที่ชื่นชอบเรื่องนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างกับ มังงะ, เสียงเพลงและ idol