เจมส์ คาเมรอน ไม่เห็นด้วยกับการใช้ Generative AI ในการสร้างภาพยนตร์

THE SUMMARY:

Generative AI ยังเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนในวงการภาพยนตร์ แม้ Netflix จะมีแนวคิดที่แตกต่างว่าการนำ AI มาใช้ทำภาพยนตร์จะเป็นการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ผู้กำกับหลาย ๆ คนยังไม่เห็นด้วย ซึ่งรวมถึงเจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ด้วยเหมือนกัน

เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ระดับตำนานซึ่งเป็นที่รู้จักจากการผลักดันเทคโนโลยีด้านวิชวลเอฟเฟกต์อย่าง Avatar ที่ใช้เทคนิค performance capture ในการสร้างตัวละครชาวนาวีสีน้ำเงินให้สมจริงทั้งการเคลื่อนไหว อารมณ์ และจังหวะการแสดง ได้ออกมาแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้ Generative AI ในงานสร้างภาพยนตร์ โดยมองว่าเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวและขัดกับแนวคิดสร้างสรรค์ที่คาเมรอนเชื่อมั่นมาตลอดหลายทศวรรษ

คาเมรอนได้ให้สัมภาษณ์กับทาง CBS Sunday Morning ที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเปิดตัวภาพยนตร์ Avatar: Fire and Ash คาเมรอนกล่าวว่า แม้ผู้ชมทั่วไปอาจมองว่า performance capture คล้ายกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างตัวละคร แต่จริง ๆ แล้ว  2 อย่างนี้คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกันเลย เพราะ performance capture คือการรวบรวมรายละเอียดการแสดงของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง แล้วส่งต่อให้ทีมศิลปินดิจิทัลนำไปพัฒนาเป็นตัวละครที่มีชีวิต โดยที่แก่นของการแสดงยังเป็นมนุษย์อยู่

คาเมรอนชี้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนจำนวนหนึ่งเข้าใจผิดคิดว่าการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มีวัตถุประสงค์เพื่อแทนที่นักแสดงจริง ๆ แต่ความจริงคือไม่มีเทคโนโลยีใดทดแทนการแสดงที่แท้จริงได้ เบื้องหลังการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ นักแสดงต้องลงไปถ่ายทำจริงในถังน้ำขนาดมหึมา เพื่อให้ได้ข้อมูลการเคลื่อนไหวใต้น้ำที่มีรายละเอียดสมจริงที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ GenAI ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้

Generative AI สามารถสร้างตัวละคร สร้างนักแสดง และสร้างการแสดงได้ทั้งหมดจากเพียงคำสั่งข้อความ โดยไม่ต้องอาศัยการแสดงของมนุษย์ ซึ่งคาเมรอนมองว่านี่คือสิ่งที่น่ากลัวมาก และเป็นทิศทางที่คาเมรอนไม่ได้ต้องการให้วงการภาพยนตร์เป็นแบบนั้น เพราะจะทำให้คุณค่าของมนุษย์ ศิลปะการแสดง และความร่วมมือระหว่างทีมงานลดลงอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือว่าตรงกันข้ามกับปรัชญาการทำงานของคาเมรอน

ที่มา TechCrunch

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...